ไม่พบผลการค้นหา
เวทีเสวนาเรื่องการล่อลวงเด็กฯ เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศต่อเด็กผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และการท่องเที่ยวทางเพศกับเด็ก หลังพบว่ากลุ่มเด็กชาย ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงมากกว่าเด็กผู้หญิง

คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อมวลชน เปิดเวทีเสวนา "การล่อลวงเด็กและการค้าประเวณีเด็ก ภัยจากสื่อสังคมออนไลน์" เพื่อแก้ไขปัญหาการกระทำผิดต่อเด็กจากสื่อออนไลน์ โดยมีผู้ร่วมเสวนาจากหน่วยงานต่างๆ กว่า 200 คน หลังจากพบว่า สื่อออนไลน์ลามกอนาจารเด็ก ถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญระดับประเทศ ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน อีกทั้งยังมีการขยายตัวของการท่องเที่ยว ที่มีเด็กเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเพศ หรือ 'เซ็กซ์ทัวร์' ซึ่งใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการดำเนินการเช่นกัน 

ดังนั้น จึงต้องมีการระดมความคิดเห็น เพื่อหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศต่อเด็กในทุกรูปแบบผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ผู้ร่วมเสวนาจึงข้อเสนอให้มีการแก้ไข ร่างพระราชบัญญัติเเก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับการล่อลวงเด็กและการท่องเที่ยวทางเพศกับเด็ก) เพื่อคุ้มครองเด็กให้ปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรม 

นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มการใช้สื่อออนไลน์ไปในทางที่ผิดมีมากยิ่งขึ้น เช่น ทวิตเตอร์, และอินสตาแกรม มีการล่อลวง และลุกลามไปจนถึงการจัดเซ็กทัวร์ผ่านออนไลน์ เพื่อขายชาวต่างชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้หลายฝ่ายจะต้องบูรณาการเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา ตั้งแต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปจนถึงระดับครอบครัว ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกในปัจจุบัน คือเด็กที่ถูกล่อลวงส่วนใหญ่ กลับเป็น 'เด็กผู้ชาย' มากกว่าเด็กผู้หญิง 

ดังนั้น ปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดต่อเด็กจากสื่อออนไลน์ ต้องเริ่มจากการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการล่อลวงเด็ก การท่องเที่ยวทางเพศกับเด็ก ให้มีบทลงโทษที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เอาจริงเอาจังกับผู้กระทำผิด