ไม่พบผลการค้นหา
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในกรอบเวลาไม่ล่าช้า ชี้คาดหวังให้ผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม พร้อมยื่น 1 แสนรายชื่อหลังรณรงค์เสือดำต้องไม่ตายฟรีผ่าน change.org

วันนี้ (16 มี.ค.) เวลา 10.00 น. นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบฯ เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอบคุณที่ทำคดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ อย่างรวดเร็ว พร้อมขอความมั่นใจในสำนวนคดีของนายเปรมชัย เพราะส่วนตัวมีความกังวลว่าคนที่จะได้รับโทษในคดีจะมีเพียงลูกน้อง แต่นายเปรมชัยอาจรอดพ้นคดีได้

อีกทั้งยังร่วมกันยื่นรายชื่อ 142,189 รายชื่อ ที่ได้จากการร่วมรณรงค์ในเว็บไซต์ change.org ว่าเสือดำต้องไม่ตายฟรี ให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในการเข้าพบครั้งนี้ด้วย

คดีเสือดำ


นอกจากนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัดกับพวกรวม 4 คน ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ พร้อมได้มีการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองพร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุน และปลอกกระสุนปืน ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2561 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โดยพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนและมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1, นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2, นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3, และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยมีข้อหารวม 9 ข้อ ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 

มูลนิธิสืบฯ ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ส่งสำนวนของพนักงานสอบสวนให้อยู่ในกรอบระยะเวลาของการดำเนินงานโดยไม่ชักช้า และข้อหาที่สำคัญ คือ เจตนาร่วมกันล่าสัตว์ป้าคุ้มครอง และร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นข้อหาสำคัญตามพฤติการณ์แห่งคดี ได้ถูกระบุส่งถึงอัยการอย่างครบถ้วน มูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสำนวนประกอบคำฟ้องจะดำเนินการไปด้วยความรัดกุม รอบคอบ และมีน้ำหนักเพียงพอที่จะใช้ประกอบคำฟ้องในชั้นอัยการต่อไป

ขณะเดียวกันเนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำโดยอุกอาจ เจตนาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง และร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของคนไทยทุกคน มูลนิธิฯจึงคาดหวังว่า ผู้กระทำความผิดสมควรได้รับการประณามและลงโทษตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมเช่นประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเปรมชัย เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในข้อหาร่วมกันครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย และครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย ซึ่งทางนายเปรมชัย ให้การปฏิเสธทั้ง 3 ข้อหา พร้อมย้ำว่าไม่ได้ฆ่าเสือดำ และเสียใจที่สังคมคิดแบบนั้น โดยศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 300,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ


กราฟฟิกคดีเสือดำ


นอกจากนี้ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ออกหมายเรียกนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมด้วยนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถให้มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันติดสินบนเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในวันที่ 19 มี.ค. นี้ด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง