ต่างประเทศ
ทรัมป์ชี้หยุดขายอาวุธซาอุดีฯ จะเป็นการ 'ลงโทษ' สหรัฐฯ มากกว่า
สหรัฐอเมริกาตกอยู่ภายใต้ความกดดันจากทั้งภายในประเทศและทั่วโลกที่เรียกร้องให้ออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนหลังจากนายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อนักข่าวชื่อดังชาวซาอุดีอาระเบียหายตัวไประหว่างไปทำธุรกิจที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในอิสตันบูล ตุรกี โดยนักกฏหมายหลายคนของสหรัฐฯ ชี้ให้รัฐบาลยุติการขายอาวุธสงครามให้กับรัฐบาลซาอุดีฯ หากมีบทสรุปของคดีนายจามาล
ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างเด็ดขาด
"ผมคิดว่ามันจะเป็นการลงโทษตัวเราเองมากกว่าถ้าเราทำแบบนั้น" นายทรัมป์ กล่าว
พร้อมชี้ว่ายังมีอีกหลายอย่างที่สหรัฐฯ สามารถทำได้ลงโทษซาอุดีฯ ซึ่งเขาจะดำเนินการอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) นายทรัมป์ออกมากล่าวว่าสหรัฐฯ กับซาอุดีฯพึ่งบรรลุข้อตกลงซื้อขายอาวุธสงครามมูลค่ากว่า 1.1 แสนล้านดอลลาห์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการจ้างงานกว่าแสนอัตรา
"หากพวกเขาไม่ซื้อกับเรา เขาก็จะไปซื้อกับรัสเซีย ไม่ก็จีน ลองคิดดู เงินกว่า 1.1 แสนล้านดอลลาห์สหรัฐ ทั้งหมดที่พวกเขาจะทำคือนำเงินจำนวนนี้ไปให้ประเทศอื่น ซึ่งผมคิดว่ามันโง่มาก ถ้าจะปล่อยให้เป็นแบบนั้น" นายทรัมป์ กล่าว
แม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลของนายทรัมป์จะใช้วิธีการใดในการลงโทษ หากพบว่าซาอุดีฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งของโลกและยังเป็นพันธมิตรชั้นดีของสหรัฐฯ มีความผิดจริง
ในเวลาที่รัฐบาลของนายทรัมป์เตรียมจะคว่ำบาตรการซื้อน้ำมันจากอิหร่านในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ พร้อมกับยังกระตุ้นในซาอุดีอาระเบียเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อมาชดเชยกับน้ำมันที่สหรัฐฯ จะขาดไปจากการคว่ำบาตรอิหร่าน
นายทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่าเขาจะพูดคุยกับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า "เพราะผมคิดว่ามันเหมาะสมที่จะถามเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
