นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีครูกลุ่มหนึ่งประกาศปฏิญญามหาสารคาม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 พร้อมนัดลูกหนี้ ช.พ.ค. ทั่วประเทศกว่า 4.5 แสนคน ยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงประเด็นดังกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้ชี้แจงแล้วว่าครูส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับถ้อยแถลงของปฏิญญาดังกล่าว พร้อมทั้งประสานไปยังธนาคารออมสินเพื่อสอบถามถึงข้อเรียกร้องดังกล่าวที่อ้างว่าครู 4.5 แสนคน เห็นด้วยนั้นเป็นความจริงหรือไม่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการดำเนินงานในหลายส่วนเพื่อช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้สินครู ทั้งการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สกสค. กับธนาคารออมสิน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ดอกเบี้ยและเงินต้นลดลง รวมทั้ง สกสค.ไม่รับเงินสนับสนุนพิเศษ เพื่อนำไปให้ลูกหนี้ชั้นดีซึ่งมีอยู่เกินกว่าร้อยละ 90 ในขณะที่ลูกหนี้กลุ่มวิกฤตมีจำนวนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ครูส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วย การอ้างว่าครู 4.5 แสนคนเห็นด้วยคงไม่ได้ แต่ในทางกลับกันข้อเรียกร้องดังกล่าวส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของครูโดยรวม จึงขอให้สังคมอย่าได้ตัดสินหรือเหมารวมว่าครูทุกคนจะมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับกลุ่มครูดังกล่าว ซึ่งกลุ่มที่ประกาศส่วนใหญ่เกษียณอายุราชการแล้ว
ส่วนคำถามที่ว่าจะดำเนินการอย่างไรนั้น ในทางกฎหมายไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ และเท่าที่ทราบครูกลุ่มนี้ถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนักจนล่าถอยออกไปเอง ส่วนจะมีการพิจารณาความผิดทางจริยธรรมครูหรือไม่นั้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเป็นหน่วยงานที่ดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ทำหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้ธนาคารออมสินทบทวนข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนการค้ำประกันเงินกู้ได้โดยไม่ต้องใช้การค้ำประกันแบบเดิม อาทิ นำที่ดินหรือสินทรัพย์มาค้ำประกันแทน จะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันหรือไม่ ซึ่งธนาคารออมสินยินดีจะรับไปพิจารณาทบทวนต่อไป
ธ.ออมสิน ออกหนังสือเวียน 'เร่งดำเนินการฟ้องคดีลูกหนี้สินเชื่อครู'
โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินออกหนังสือเวียนถึงกรรมการ และหัวหน้าสำนักงาน ตามที่ธนาคารมีนโยบายในการเร่งแก้ไขปัญหาลูกหนี้ครูและบุคคลาการทางการศึกษาที่เป็นหนี้ค้างชำระ และไม่เข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้สำหรับการแก้ไขหนี้สินเชื่อครูและบุคคาการทางการศึกษา หรือไม่ติดต่อชำระหนี้กับธนาคาร โดยธนาคารได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 ลูกหนี้ที่ศูนย์ควบคุมและบริหารหรี้เขตมอบหมายให้ท่านบอกกล่าวทางถาม/บอกเลิกสัญญาเรียบร้อยแล้วให้เร่งดำเนินการฟ้องคดี
กลุ่มที่ 2 ลูกหนี้ที่ศูนย์ควบคุมและบริหารหนี้เขตอยู่ระหว่างจัดทำหนังสือแจ้งให้ท่านบอกทวงถาม/บอกเลิกสัญญา ซึ่งขอให้ท่านเร่งกระบวนการฟ้องคดี