พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในประเด็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง ว่า ต้องรอให้ กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำงานจะได้หารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่าง กกต.ชุดใหม่และ กกต.ชุดเก่า และต้องให้ กกต.ชุดใหม่ มีส่วนร่วมในการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งตามความเหมาะสม เพราะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันและไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกทั้งหมดหรือแก้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.เพื่อยื้อการเลือกตั้ง ยืนยันว่าตนเองไม่เคยคิดที่จะเลื่อนการเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว แต่ที่ผ่านมาเลื่อนเพราะกฏหมาย 

สำหรับการประชุม คสช.วันนี้ นายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบว่า ไม่ได้มีเรื่องการหารือเพื่อปลดล็อกหรือการให้ กกต.กำหนดแบ่งเขตเลือกตั้งเพราะต้องรอกฏหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้ก่อน จึงขออย่าถามในเรื่องดังกล่าวอีก โดยเฉพาะการแก้ไข พ.รบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ซึ่งสิ่งสำคัญจะต้องรอ กกต.ชุดใหม่เข้ามารับตำแหน่งเพราะทุกอย่างเป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่

ด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มองว่าการเสนอ แก้ไขกฎหมาย เป็นสิทธิ ที่สมาชิก สนช. สามารถทำได้ ส่วนจะมีข้อดีหรือข้อเสียหรือไม่ สมาชิกสนช.จะต้องพิจารณา ด้วยตัวเขาเอง พร้อมมองว่าเร็วเกินไปหากมีบุคคลไปเสนอ ให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เพราะควรมีความชัดเจนและมีผลใช้บังคับก่อน จึงถึงเข้าสู่ขั้นตอนการร้อง ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทังการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวไม่กระทบกับการเลืกอตั้ง เพราะการเลือกตั้งยังต้องเดินหน้า

สำหรับการแก้ไขกฎหมายหากเห็นว่าออกมาแล้วเป็นปัญหา ก็สามารถแก้ไขได้ เพียงแต่ ได้คิดอย่างรอบคอบแล้วหรือไม่ หากยอมรับว่าคิดผิดก็สามารถแก้ไขใหม่ได้

วิป สนช. ชี้กลุ่มแฮกปั่นโหวตค้านแก้ พ.ร.บ. กกต.

ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. ระบุว่า การยื่นขอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ของ 36 สมาชิก สนช. สามารถเข้าชื่อเสนอได้ แต่ยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนบรรจุระเบียบวาระของวิป สนช.

นายสมชาย ระบุว่า จากการพูดคุยกับนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิก สนช.ผู้เสนอขอแก้ไข ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขต่อไป ทำให้ต้องรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน หากเดินหน้าต่อก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อโรดแมปเลือกตั้ง

นายสมชาย ยังกล่าวถึงผลการเปิดรับฟังความเห็น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ สนช. ว่า ผลดังกล่าวมีกระบวนการจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่เข้ามาปั่นยอดโหวตไม่เห็นด้วย สูงถึง 94เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เป็นยอดที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในเวลา 7 ชั่วโมง โดยที่ไม่มีผู้โหวตเห็นด้วยแม้แต่รายเดียว จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบและประสาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เพื่อหาข้อมูลว่าเป็นการกระทำของคนกลุ่มใด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ดึงเลือกตั้งปี 62 ? สนช. ตั้งวงล้างไพ่ 'ผู้ตรวจการเลือกตั้ง'
• หวั่นยื้อเลือกตั้ง เปิดผลโหวต 1 แสนเสียงรุมค้านแก้กฎหมาย กกต.
• ร่างแก้ไขกฎหมาย กกต. ถึงมือประธาน สนช. แล้ว