ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเปิดเผยแนวปะการังที่เสื่อมโทรมบริเวณทางด้านใต้ของเกาะปู อ่าวกะตะ อ่าวนาคา แหลมหยมดิ่ง และอ่าวป่าตองด้านเหนือ จ.ภูเก็ต พบว่าบางส่วนเริ่มมีการฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติ มีตัวอ่อนปะการังอายุ 1-2 ปีขึ้นกระจายบนซากปะการังเดิมที่ตายแล้ว เตรียมทำแผนฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลในระยะเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.61 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่สำรวจแนวปะการังที่เสื่อมโทรมบริเวณฝั่งตะวันตกของ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูปะการังในพื้นที่เสื่อมโทรมโดยวิธีการที่เหมาะสม ผลจากการสำรวจเบื้องต้นทางด้านใต้ของเกาะปู อ่าวกะตะ อ่าวนาคา แหลมหยมดิ่ง และอ่าวป่าตองด้านเหนือ พบว่าแนวปะการังบางส่วนเริ่มมีการฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติ มีตัวอ่อนปะการังอายุ 1-2 ปีขึ้นกระจายบนซากปะการังเดิมที่ตายแล้ว และมีเศษปะการังชนิดต่างที่แตกหักอยู่ตามพื้นในปริมาณมาก สามารถนำไปปลูกฟื้นฟูได้ 

ปะการัง


นายธนา ยิ่งเจริญ ผอ.สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า สาเหตุสำคัญและแนวโน้มของปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของแนวปะการังมีดังนี้ 1.เกิดจากภัยธรรมชาติ ได้แก่ การระบาดของปลาดาวมงกุฎหนาม เนื่องจากปลาดาวมงกุฎหนามเป็นสัตว์กินปะการังเป็นอาหารโดยตรง เมื่อมันเพิ่มจำนวนขึ้นมากก็จะมีการกินปะการังมากขึ้น ผลกระทบจากการเกิดพายุ และคลื่นลม คลื่นและกระแสลมที่แรงจะทำให้กิ่งก้านของปะการัง เกิดการแตกหักเสียหายได้มาก ผลกระทบส่วนใหญ่จะเกิดในปะการังกิ่งมากกว่าปะการังก้อน โดยกลุ่มของปะการังจะฟื้นตัวภายใน 1 ปี โดยพายุจะส่งผลให้ความหลากหลายของปะการังลดลงได้ แต่มันจะมีการเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อได้รับแสงสว่าง สามารถเติบโตเพิ่มโคโลนีได้ต่อไป


ปะการัง


2.เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ การที่มนุษย์เข้าไปในแนวปะการังย่อมเกิดผลกระทบต่อแนวปะการังอย่างแน่นอน กิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่เราพบบริเวณรอบเกาะหรือชายฝั่งนั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมในทะเล ได้แก่ การปล่อยน้ำเสีย การทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง การทำลายหน้าดิน การทำประมง และการเก็บปะการัง ดังนั้น อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการฟื้นฟูแนวปะการัง จึงได้อนุมัติโครงการจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่แนวปะการังที่เสื่อมโทรม ซึ่งเป็นการตรวจสอบพื้นที่ตามข้อมูลที่รวบรวมได้จากรายงานสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ทางสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (สบทช.) และสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน (สวพ.) เสนอต่อกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)

ผอ.สทช. กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นทางสำนักอนุรักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ (สทช.) จะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่แนวปะการังตามลำดับความสำคัญของพื้นที่ โดยเฉพาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อนำมาจัดทำแผนฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลในระยะเร่งด่วนของปีงบประมาณพ.ศ. 2562 - 2564 ต่อไป

ขอบคุณภาพประกอบข่าว : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง