จากกรณี ครูเต้ย-อภิวัฒน์ บุญเอนก นักร้องลูกทุ่งอินดี้คนดัง เจ้าของเพลงดังหลายร้อยล้านวิว อาทิ ถ้าอ้ายหน้าใหม่, อยู่บ่ได้, อีหล่าเอ๋ย ฯลฯ ซึ่งรับราชการครู สอนวิชาศิลปศึกษา ดนตรี และนาฏศิลป์ ที่โรงเรียนบ้านกุดธาตุ จ.ขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ด้วยสาเหตุมีปัญหาคบซ้อนสร้างโลกสองใบ และถูกตั้งข้อสงสัยว่า เอาเวลาไหนสอนนักเรียน ทำสื่อการเรียนการสอน รวมทั้งจ้างผู้อื่นมาสอนแทนหรือไม่ เพราะตารางงานร้องเพลงแน่นขนัดตลอดทั้งเดือน ซึ่งทางต้นสังกัดได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นิติกร และบุคลากรที่มีความชำนาญด้านการสอบสวนวินัยเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ 

ในโลกออนไลน์มีทั้งแฟนคลับให้กำลังใจ และผู้ที่แสดงความเห็นด้านลบ จน #ครูเต้ย ติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1 นอกจากนี้พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นเชิงแนะนำครูเต้ยให้ดู ครูสลา คุณวุฒิ อดีตข้าราชการครูที่ลาออกมาเป็นนักแต่งเพลงเต็มตัว เมื่อโด่งดังมีชื่อเสียงมีเวลาให้ราชการน้อยลง เป็นตัวอย่าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ครูสลา คุณวุฒิ ศิลปินนักแต่งเพลงคนดัง โปรดิวเซอร์ผู้สร้างศิลปินมีชื่อเสียงโด่งดังประดับวงการลูกทุ่งมากมาย ให้สัมภาษณ์กับ ‘ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์’ ว่า ยังไม่ทราบว่ามีเรื่องแบบนี้ แต่โดยส่วนตัวอยากให้กำลังใจครูเต้ย สิ่งที่เกิดขึ้นกับครูเต้ยเวลานี้สังคมมีสิทธิ์ท้วงติงกันได้ และคิดว่าครูเต้ยก็รับฟัง อยากให้สังคมให้โอกาสครูเต้ย ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เป็นบุคลากรที่มีคุณค่า เพียงแต่อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่ลงตัว ในสถานการณ์ที่ครูเต้ยกำลังเผชิญอยู่นี้อาจมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจเลือกแล้ว และ เชื่อว่าครูเต้ยจะเลือกทางที่ลงตัวที่สุดทั้งกับตนเองและสังคม

“ครูเป็นกำลังใจให้ อยากให้สังคมให้โอกาสน้องคือครูเต้ย ครูเต้ยเป็นคนดี เขาต้องหาจุดลงตัวให้ได้ครับ อาจจะถึงจุดแล้วก็ได้ และเชื่อมั่นว่าเต้ยก็มี ครูเชื่อว่าคนที่เคยเรียนครูมามีสำนึกบางอย่างอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว เต้ยก็มีครูก็มี และคุณครูอีกหลายๆ คนก็มี เชื่อว่าเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งเขาจะเลือกทางที่ลงตัวที่สุด ทั้งกับตัวเองและสังคม แต่ว่านาทีนี้อยากให้ทุกคนได้ให้เวลาน้อง ไม่อยากให้สูญเสียคนที่มีคุณค่า ครูมองว่าเต้ยเป็นคนที่มีคุณค่า มีความสามารถ และจิตสำนึกความเป็นครูไม่น่าจะยิ่งหย่อนไปกว่าคนอื่นหรอก แต่ว่าสิ่งที่มันโถมเข้ามาในระยะนี้เขาอาจจะตั้งหลักไม่ท่าน จัดระเบียบยังไม่ได้ต้องให้เวลาน้องครับ คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ อยากให้สังคมให้เวลาน้อง”

ครูเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใช้ภาษาสวยงามสอดแทรกถ้อยคำภาษาพื้นถิ่นอีสานเข้าไปในบทเพลงไทยลูกทุ่ง บอกอีกว่า ไม่ว่าครูเต้ยจะเลือกทางไหน แต่ก็ลาออกจากความเป็นครูไม่ได้อย่างแน่นอน เฉกเช่นเดียวกับเขาที่มายืนอยู่จุดนี้ได้ เพราะมีหัวใจความเป็นครู ‘ลาออกจากราชการแต่ไม่เคยลาออกจากความเป็นครู’ นอกจากแต่งเพลงแล้วยังปั้นศิลปินด้วยหัวใจแห่ความปราถนาดี อยากเห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จเดินไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสม

“การทำหน้าที่ครูในแง่ของจิตวิญญานหรือสำนึกในการบอกหัวใจตัวเองในแต่ละวันคิดว่าลาออกไม่ได้หรอก โดยเฉพาะคนที่เรียนวิชาชีพครูมาหรือคนเคยเป็นครูมามันออกจากตรงนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราสรรหาคำพูดสวยๆ มาพูดนะ คิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่แท้จริง คือ เหมือนกับคนที่เป็นตำรวจคนที่เป็นทหารวันหนึ่งเกษียณไปแล้วหัวใจเขาก็ยังเป็นตำรวจ เป็นทหารอยู่ พบสถานการณ์ฉุกเฉินก็ยังอยากเข้าไปช่วยชาวบ้านอยู่ ก็บอกตัวเองว่ามันคงลาออกไม่ได้อยู่กับตัวเราตลอด แต่ว่าที่เราลาออกมาคือลาออกจากราชการ ก็พยายามทำตรงนี้มาโดยตลอดทั้งตั้งใจและเป็นโดยธรรมชาติ คิดว่าตัวเองทำหน้าที่พอสมควรอยู่ แต่ก็มีบางครั้งหลงลืมไปบ้าง แต่ด้วยความตั้งใจยังคิดว่าตัวเองทำหน้าที่ครูในอีกรูปแบบหนึ่ง”​ ครูสลา กล่าว

ครูสลา คุณวุฒิ เดิมรับราชการครู บรรจุครั้งแรกที่โรงเรียนบ้านไร่ขี ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบัน อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ) เป็นนักร้องทำเองขายเองในชื่อวง ‘เทียนก้อม’ ก่อนเข้าค่ายเพลงเล็กๆ อย่าง ‘สหกวงเฮง’ ใช้ชื่อวง ‘จังหัน’ แต่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แจ้งเกิดในวงการลูกทุ่งจากการแต่งเพลง ‘จดหมายผิดซอง’ ร้องโดย ‘มนต์สิทธิ์ คำสร้อย’ นักร้องสังกัดชัวร์ออดิโอ และแต่งเพลงดังต่อเนื่อง อาทิ เพลง ‘กระทงหลงทาง’ ร้องโดย ‘ไชยา มิตรชัย’, เพลง ‘ล้างจานในงานแต่ง’ ร้องโดย ‘ศิริพร อำไพพงษ์’ ฯลฯ จนค่ายแกรมมี่ชักชวนไปร่วมงาน ประสบความสำเร็จกับการแต่งเพลง ‘ไมค์ ภิรมย์พร’ ร้องมากมาย อาทิ ‘น้ำตาหล่นบนโต๊ะจีน, ยาใจคนจน’ เป็นต้น

เมื่อโด่งดังมีชื่อเสียงงานแต่งเพลง งานห้องบันทึกเสียงมีมากขึ้นต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ บ่อยขึ้น รู้สึกไม่สบายใจที่เบียดบังเอาเวลาราชการมาทำอาชีพอื่น จึงตัดสินใจลาออกจากราชการเมื่อ ปี พ.ศ.2541ตำแหน่งสุดท้าย ครูใหญ่ โรงเรียนบ้านดอนชี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี