ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ยืนยันไม่มีปัญหาสัดส่วนคณะกรรมการสมานฉันท์ ย้ำแนวทางพรรคภูมิใจไทย​ เน้นสามัคคี​ ปรองดอง​ ปกป้องสถาบัน ขณะเผยจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ได้ตามปกติ แต่ต้องขออนุญาต - วางมาตรการตามระเบียบ ขอประชาชนเบาใจลักลอบเข้าชายแดน เชื่อหน่วยงานมั่นคงควบคุมได้

อนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ​ ภท. ยืนยันพรรคไม่มีปัญหา​ในเรื่องของ​สัดส่วนรัฐบาลในคณะกรรมการสมานฉันท์​​ เสนอชื่อนายสรอรรถ​ กลิ่นปทุม​ ส.ส.บัญชี​ราย​​และ เป็นเรื่องของรัฐสภา​ที่มีคนทำงานอยู่แล้ว ​รวมถึงเป็นสิทธิ์ที่แต่ละพรรคจะเสนอ ไม่ทราบพรรคละ1โคต้าหรือไม่ เช่นเดียวกับไม่รู้หรือพูดคุยถึงกระแสข่าวที่นายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภาไม่พอใจในการเสนอชื่อนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั่งในคณะกรรมการ​สมานฉันท์​ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้คณะกรรมการ​เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่นั้น​ นายอนุทิน​ ย้ำว่า​ ส่วนตัวไม่มีปัญหา​แน่นอน​ พรรคภูมิใจไทย​ เน้นแนวทางสมานฉันท์ สามัคคี ปรองดอง ปกป้องสถาบัน​​ 

อนุทิน กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ 2 ศบค. ในวันนี้ จะมีการออกมาตรการสำเร็จรูปออกมาเลยหรือไม่ว่า มาตรการนั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ปฏิบัติตาม ทุกการจัดงานจะต้องมีการขออนุญาตจัด และผู้จะต้องเสนอขั้นตอนทุกๆอย่างมก็อนุญาตตามนั้น แต่ที่มีปัญหาเพราะทำนอกกรอบที่ได้ตกลงกันไว้ หากทุกคนทำตามที่ขออนุญาตมา ก็จะไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือใครที่มีอำนาจในการอนุมัติจัดงาน จะต้องดูข้อเสนอ เทียบกับระเบียบที่มีการตั้งเอาไว้ หากอยู่ในระเบียบก็มีการอนุมัติ 

อนุทิน ยืนยัน ว่าเหตุการณ์ในจังหวัดนครราชสีมา ไม่มีอะไรเป็นบทเรียน บทเรียนคืออย่าทำผิดกฎหมาย หรือผิดขั้นตอน หรืออย่าทำนอกเหนือจากที่ได้ขออนุญาตไว้ ยืนยันว่าจะทำตามหน้าที่ เช่นการประกาศให้งดจัดงานแต่ยังมีการจัดอยู่ หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการแล้วใครผิด เจ้าหน้าที่ก็โดนอีก หากจะไม่ให้มีทางเลือกเลยก็ลำบาก ตนไม่อยากใช้คำว่าบทเรียน เพราะทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ไม่มีอะไรเป็นความทรงจำ

ส่วนมาตรการคุมเข้มในช่วงเทศกาลปีใหม่ อนุทิน ระบุว่า ต้องสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือ เว้นระยะห่างพอสมควรก็พอแล้ว ตนเชื่อว่าทุกคนมีสัญชาตญาณ ว่าควรเว้นระยะอย่างไร ทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว ยืนยันว่า การจัดงานในช่วงเทศกาลปีใหม่สามารถทำได้แต่ต้องขออนุญาตตามระเบียบ

อนุทิน ยังระบุว่า ขออย่าห่วงการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ในพื้นที่ตามแนวชายแดน เพราะลักลอบมาก็จับได้หมด ซึ่งมาตรการกักตัว 14 วันสามารถทำให้ทุกคนปลอดภัย ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนลักลอบเข้าประเทศเพราะต้องการหลบเลี่ยงการกักตัว 14 วัน สิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญเท่าลักลอบเข้ามาแล้วยังไปไหนมาไหนสิ่งนี้แย่ ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อผู้ลักลอบเข้าเมืองทั้งหมดแล้วและได้ทำความเข้าใจ ในส่วนที่เหลือทั้งหมด ส่วนพื้นที่ท่าขี้เหล็ก ตนมองว่าไม่มีอะไรน่าห่วงอีกต่อไป ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคง ปฏิบัติหน้าที่ดูแลตามแนวชายแดน ก็สามารถดำเนินการควบคุมได้ตลอดเวลา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :