ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนและบาดเจ็บอีก 144 คนจากเหตุการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียที่ “ชั่วร้าย” ใส่โรงละครและจัตุรัสกลางเมืองเชอร์นิฮิฟทางตอนเหนือของยูเครน

“ผมมั่นใจว่าทหารของเราจะตอบโต้รัสเซียสำหรับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายครั้งนี้” เซเลนสกีกล่าวในคำปราศรัยทางวิดีโอ ซึ่งเผยแพร่ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (20 ส.ค.) หลังจากสิ้นสุดภารกิจการเดินทางเยือนสวีเดน “มันเด่นชัดว่าเป็นการตอบโต้” เซเลนสกีกล่าวย้ำถึงการโจมตีของรัสเซียในครั้งนี้

เซเลนสกีระบุอีกว่า โซเฟีย เด็กหญิงอายุ 6 ขวบเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต จากการโจมตีของรัสเซียในครั้งนี้ใส่โรงละคร นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 15 คนเป็นเด็ก ทั้งนี้ ไอฮอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยูเครน กล่าวผ่านทาง Telegram ว่า ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 15 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่อยู่ในยานพาหนะ กำลังข้ามถนน หรือกำลังเดินทางกลับจากโบสถ์ เมื่อขีปนาวุธของรัสเซียได้พุ่งเข้าใส่โรงละครดรามาเธียเตอร์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของเมืองเชอร์นิฮิฟ

เวียเชสลาฟ ชาอุส ผู้ว่าการภูมิภาคเชอร์นิฮิฟกล่าวว่า หลังจากการโจมตีโดยรัสเซียต่อโรงละคร มีผู้ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลแล้ว 41 คนเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.)

“มาลงมือทำให้มากกว่านี้ เพื่อรวมให้โลกต่อต้านการก่อการร้ายของรัสเซีย ให้รัฐของเรามีความสามารถมากขึ้นเพื่อปกป้องชีวิต รัสเซียต้องแพ้สงครามนี้ที่แลกชีวิตเพื่อชนะ” ประธานาธิบดียูเครนกล่าวเสริมในแถลงการณ์ 

สื่อยูเครนรายงานว่าการโจมตีในครั้งนี้เกิดขึ้นในงานที่เปิดต่อสาธารณะ ซึ่งมีผู้ผลิตโดรนกำลังจัดแสดงโดรนของตัวเองอยู่ภายในโรงละครขณะการเกิดการโจมตีขึ้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยูเครนกล่าวเพียงว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในอาคาร และหน่วยรักษาความปลอดภัยภายในประเทศยูเครนกำลังดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้ กระทรวงหมาดไทยยูเครนระบุว่า หลังคาโรงละครได้ถล่มลงมาในเวลาต่อมา หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งหน่วยฉุกเฉินได้เข้าระงับเพลิงแล้ว

สหประชาชาติประณามการโจมตียูเครนโดยรัสเซียในครั้งนี้ว่า “เป็นเรื่องเลวร้ายที่จะโจมตีจัตุรัสหลักของเมืองใหญ่ในตอนเช้า ขณะที่ผู้คนออกไปเดินเล่น บางคนไปโบสถ์เพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนาของชาวยูเครนจำนวนมาก” เดนิส บราวน์ ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติประจำยูเครนกล่าว “ดิฉันขอประณามการโจมตีของรัสเซียในหลายครั้งในพื้นที่ที่มีประชาชนของยูเครน… การโจมตีต่อพลเรือนหรือวัตถุของพลเรือนเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”

เชอร์นิฮิฟนับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องโบสถ์ยุคกลาง ยิ่งไปกว่านั้น ศูนย์กลางของเมืองแห่งนี้ไม่ได้เป็นที่ตั้งที่มีความสำคัญทางการการทหารที่ชัดเจน และพรมแดนของรัสเซียตั้งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือจากตัวเมืองประมาณ 80 กิโลเมตร และด่านหน้ารบของทั้งสองชาติตั้งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของยูเครนมากกว่า 480 กิโลเมตร

ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนที่ห่างไกลจากแนวหน้ารบด้วยขีปนาวุธและโดรน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซีย ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.พ. 2565 ทั้งนี้ การโจมตีโดยเจตนาหรือประมาทเลินเล่อในพื้นที่หรืออาคารพลเรือน ถือเป็นอาชญากรรมสงครามตามกฎหมายระหว่างประเทศของประชาคมระหว่างประเทศ

กองทัพอากาศของยูเครนรายงานเมื่อเช้าวันเสาร์ว่า กองทัพยูเครนได้ยิงโดรนชาเฮ็ดที่ผลิตในอิหร่านตกลง 15 ลำจากทั้งหมด 17 ลำที่รัสเซียนำมาใช้ในการโจมตีข้ามคืน ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า พวกเขาได้ทำลายโดรนของยูเครนในภูมิภาคเบลโกรอด และมีโดรนอีกลำหนึ่งที่ขัดข้องลงใกล้กับพื้นที่ของกรุงมอสโก ทั้งนี้ 1 ใน 3 ของโจมตีสนามบินทหารในภูมิภาคนอฟโกรอด ได้สร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินรบรัสเซีย

เซเลนสกีได้เดินทางเยือนสวีเดนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเยือนประเทศนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย และเซเลนสกีจะได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสวีเดน ตลอดจนเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน และสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน 

ทั้งนี้ สวีเดนละทิ้งนโยบายที่ดำเนินมาอย่างยาวนานในการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เพื่อสนับสนุนยูเครนด้วยการส่งมอบอาวุธและความช่วยเหลืออื่นๆ ในการทำสงครามกับรัสเซีย นอกจากนี้ สวีเดนยังสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการรอการรับรองเข้าร่วมเป็นสมาชิก


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2023/aug/19/russian-strike-on-chernihiv-ukraine?CMP=Share_AndroidApp_Other&fbclid=IwAR2a5FotKZNFkSAPLjNipc5WwhhNs7PMJG5EC5M_V_8zKUevhyz0qvIabAI