นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลเตรียมจะปรับสถานะของไวรัสโควิด จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง คาดเริ่ม 1 ตุลาคมนี้ น่าเป็นห่วง เพราะสถานการณ์การติดเชื้อในไทยยังไม่ได้ลดลงตามที่รัฐบาลประกาศ ในหลายพื้น ที่ยังพบคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นเชื่อว่าน่าจะมีเป็นหลัก10,000 คน ไม่ไช่หลักพันตามที่รัฐประกาศ เพราะจำนวนหลักพันคือผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมาก ที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 

ในขณะเดียวกันจำนวนผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตยังคงสูงขึ้น แต่ละวันจะมีผู้ป่วยเสียชีวิต จากโควิดอยู่ที่ 20-30 ราย ในขณะเดียวกัน หากดูเฉพาะปี 2565 จะพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากไวรัสโควิดสูงถึง 10,524 ราย น่าเป็นห่วง เพราะรัฐมองคนเสียชีวิตเป็นเรื่องปกติ ในขณะเดียวกัน รัฐกำลังโยนโควิด ออกจากความรับผิดชอบของรัฐบาล เพื่อประหยัดงบประมาณโดยโยนภาระ ให้ประชาชนรักษาตัวเอง

นพ.สุรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ทั้งๆที่หากประชาชนเข้าถึงการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเสียชีวิตจะลดลงอย่างแน่นอน แต่ปัจจุบันผู้ติดเชื้อหลายพันคนไม่ได้รับยารักษาโควิด แต่ได้ยาตามอาการ ปวดหัวก็ให้พารา ไอก็ให้ยาแก้ไอ หากต้องการยารักษาโดยตรงจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

“น่าประหลาดใจผู้ติดเชื้อหลายพันคนเข้าไม่ถึงยารักษาโควิด ไม่ว่าจะเป็น ฟาวิฟิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ทั้งๆที่รัฐบาลบอกหลายล้านเม็ดเพียงพอ ไปรับได้ที่โรงพยาบาลและรพ.สต. แต่ผู้ป่วยจำนวนมากกลับไม่เคยได้รับ ต้องไปหาซื้อเองเม็ดละ 80 บาท จึงขอเรียกร้องให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรี ต้องดูแลประชาชนโดยเท่า เทียมไม่ควรดูแลเฉพาะกลุ่มวีไอพีใกล้ชิดรัฐบาล” นพ.สุรวิทย์ กล่าว