พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองหลังมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ว่า ตนยังคาดหวังและมุ่งหวังให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้ เพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตมีผลพวงไปถึงเรื่องเศรษฐกิจด้วย
ส่วนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดความวุ่นวายอีกครั้งจากสถานการณ์การเมืองอย่างไร พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าคนไทยทุกคนคิดว่าประเทศของเราต้องสุขสงบในการมีรัฐบาลต่อไปที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะเป็นการคัดเลือกจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ทุกคนจึงต้องคิดว่าทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย ซึ่งต้องช่วยกันรวมถึงสื่อมวลชนต้องช่วยกันด้วย โดยขอให้ทุกฝ่ายเอาประเทศและประชาชนเป็นตัวตั้ง ซึ่งความขัดแย้งในโลกใบนี้มีมากมาย
โดยเฉพาะสงครามการค้าต่างๆ ที่อาจจะกระทบเศรษฐกิจอยู่แล้ว รวมถึงการส่งออก การใช้จ่ายในประเทศ ดังนั้นหากทุกคนยังหวาดระแวงอยู่แบบนี้ ทุกอย่างก็จะแย่ไปหมด ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ทำไม่ได้ หากยังมีความขัดแย้งในลักษณะเช่นนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นที่น่ายินดีที่ทางองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร ให้ความสนใจเรื่องการลงทุนในประเทศไทยเช่นเดิม ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทย ถือเป็นสิ่งที่มิตรประเทศมีความคิดเห็นมา
สำหรับในฐานะหัวหน้าคสช.ยังมั่นใจหรือไม่ว่า สถานการณ์วันนี้การจัดตั้งรัฐบาลรวมถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาฯ ยังจะเดินไปได้ตาม รัฐธรรมนูญที่วางไว้ในก๊อกแรก พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ต้องเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะเราได้กำหนดโรดแมปไว้แล้วก็ต้องเดินหน้าไปตามนั้น จะเห็นได้ว่าตนไม่ได้บิดพลิ้วจากโรดแมปต่างๆ ที่มีมาเว้นแต่ในช่วงแรกที่มีปัญหาในเรื่องของกฎหมายไม่เรียบร้อย นอกจากนั้นยังเป็นไปตามโรดแมปทุกประการ
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้การเดินหน้าตามรัฐธรรมนูญ และการมีรัฐบาลอะไรต่างๆ ด้วยความสงบสุขสันติ ก็ต้องฟังตนบ้างและต้องช่วยตนในการทำให้บ้านเมืองสงบสุข หากยิ่งทะเลาะและขัดแย้งกัน รวมถึงยิ่งสร้างวาทกรรมกันมากเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้มันออกไปต่างประเทศทั้งหมด แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้อย่างไร ซึ่งล้วนมีผลกระทบทั้งสิ้น