วันที่ 18 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมแนวร่วม เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขออนุมัติยื่นรายชื่อ 1 หมื่นรายชื่อ เพื่อขอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา112 ให้มีความครอบคลุมสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น และตัดการใช้อำนาจของ ส.ส.ในประกันตัวผู้กระทำความผิด ในมาตราดังกล่าว 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และมีการละเมิด กระทำผิดกฎหมายฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ อดีตพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ที่สวรรคต และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างกว้างขวาง และมีจํานวนเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ 

ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ให้การปกป้องคุ้มครองเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เท่านั้น แต่กลุ่มผู้ไม่หวังดีใช้วิธีตีเลียบไม่พุ่งเป้าไปที่พระองค์โดยตรง พรรคไทยภักดีจึงได้ทำหนังสือถึงท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขออนุมัติรวบรวม รายชื่อประชาชน 1 หมื่นรายชื่อ ขอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 คุ้มครอง เพิ่มเติมใน 3 ประเด็นคือ

1. คุ้มครองข้อความ “สถาบันพระมหากษัตริย์" เพราะได้มีการใช้คำเหล่านี้ไปกับข้อความที่หยาบ โดยที่ศาลได้วินิจฉัยว่าข้อความเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงตัวบุคคล

2. คุ้มครองอดีตพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ดังที่ได้เห็นว่ามีการละเมิดไปถึงรัชกาลก่อนหน้าด้วย

3. คุ้มครองพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป

หลังจากได้รับอนุมัติจากทางสภา พรรคไทยภักดีและประชาชนผู้ริเริ่มจะได้รวบรวมรายชื่อประชาชนต่อไป โดยในวันนี้ได้รวมรวบ 30 รายชื่อมาเป็นเบื้องต้นก่อน

อีกประเด็นที่พรรคไทยภักดียังได้เห็นปัญหา คือ ส.ส. ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปประกันตัวผู้กระทำความผิด มาตรา 112 จึงมีแนวคิดห้ามมิให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัว ผู้กระทําความผิดในคดีดังกล่าว และจะได้นำเสนอแก้ไขประมวลจริยธรรม ส.ส. เมื่อพรรคไทยภักดีมี ส.ส. ในสภาต่อไป

นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์โดนคุกคามจากขั้วตรงข้ามทางการเมือง ขณะอยู่ในศาลอาญารัชดา คดี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฟ้องหมิ่นประมาท ว่า ขอบเขตพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตนไปในฐานะจำเลย การคุกคามไม่ใช่พฤติกรรมของนักประชาธิปไตย จะต้องอยู่ในหลักการขอบเขตและผล และพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ของศาล

ขณะที่ อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (นิด้า) ยังยกตัวอย่างกรณีโฆษณา LAZADA ที่ละเมิดสถาบันฯ ด้วยวิธีตีเลียบดูหมิ่นพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ อีกทั้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นของ จ.จันทบุรี และ จ.สมุทรปราการ ได้วินิจฉัยว่าสถาบันฯ ไม่ครอบคลุมตัวบุคคล ทั้งที่สร้างความเจ็บปวดแก่ประชาชนเช่นกัน ทั้งนี้ ตนเคยโทรหา ส.ส. เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆ