นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เลิกคิดถึงความมั่นคงของตัวเอง หยุดใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แล้ว รวมถึงเลิกให้หน่วยงานที่ไม่เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหรือเศรษฐกิจ อย่างสำนักงานเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาในการขยายหรือยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"เรียกว่าเลอะเทอะไปกันใหญ่" นายจาตุรนต์ระบุ
อดีตรองนายกรัฐมนตรี บอกต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ อ้างผลโพลอะไรไม่รู้ว่าคนส่วนใหญ่อยากให้ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แถมบอกว่าแม้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ก็วางใจไม่ได้ นั่นหมายความว่า ถ้าโควิด-19 ยังอยู่ในโลก ประเทศไทยก็จะยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จึงแน่ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ เสพติดอำนาจจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่คล้ายกับอำนาจเบ็ดเสร็จ
นายจาตุรนต์ ยังได้แจกแจงข้อเสียของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตัวอย่างเช่น คำสั่งปิดสถานประกอบการต่าง ห้ามการเดินทางนั้น สามารถทำได้โดยใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ, มาตรการเพียงอย่างเดียวที่ต้องใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือ การประกาศเคอร์ฟิว, การประกาศเคอร์ฟิวเป็นประโยชน์น้อยกว่าโทษ, การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการแก้ปัญหาโรคระบาด ทำให้เกิดการจัดโครงสร้างองค์กรที่ผิดเพี้ยน
การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้การทำงานแบบรวมศูนย์อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ทำลายแนวความคิดที่จะส่งเสริมให้เกิดการกระจายอำนาจการตัดสินใจ, การออกคำสั่งโดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากส่วนกลางก็ดี จากแต่ละจังหวัดก็ดี มีแนวโน้มที่จะไม่สนใจรับฟังความเห็นของประชาชน และ การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เกิดการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเสนอความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล ทั้งโดยสื่อมวลชนและประชาชน
"โดยรวมแล้ว การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผลเสียมากกว่าผลดี ยิ่งต่อไปจะต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมากยิ่งขึ้นด้วยแล้ว การต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดจะทำอยู่ จะมีผลเสียต่อประเทศชาติอย่างมาก" อดีตรองนายกฯ ระบุ