ที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือ บอล และนายพริษฐ์ ชิวรักษ์ หรือ เพนกวิน แนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง พร้อมพวกอีก 3 คน เดินทางมาอ่านจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. หลังจากพรรคพลังประชารัฐได้เทียบเชิญเป็นนายกฯ บัญชีรายชื่ออันดับ 1
โดยเมื่อมาถึงหน้าประตู 4 พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.ดุสิต ได้เข้าชี้แจงว่า พื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลในระยะ 50 เมตร เป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามจัดการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ โดยเห็นว่าพฤติการณ์ของนายพริษฐ์ มีการประกาศชักชวนให้มาร่วมชุมนุมทางอินเทอร์เน็ต และไม่มีการแจ้งจัดการชุมนุมล่วงหน้า 24 ชั่วโมง จึงอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
จากนั้น นายธนวัฒน์ วงค์ไชย ได้กล่าวว่า ขอยืนยันจะใช้สิทธิในการอ่านจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ก่อนประกาศว่า ขอยกเลิกการเชิญชวนชุมนุมที่ประตู 4 โดยย้ายไปยังใกล้ประตู 3 ของทำเนียบรัฐบาล บริเวณฝั่งตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ติดตามไป
นายธนวัฒน์ และนายพริษฐ์ ได้อ่านจดหมายเปิดผนึก ซึ่งตอนหนึ่งระบุว่า พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้การเลือกตั้งเกิดความไม่เสรีและเป็นธรรม จนอาจทำให้ผลการเลือกตั้งไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก จากตำเเหน่งนายกฯ และหัวหน้า คสช. ทันทีที่ท่านตกลงรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง
จากนั้นนายพริษฐ์ได้นำพริกแห้ง เกลือ และกระเทียม ที่เตรียมมานำไปแขวนไว้ที่รั้วทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า ขอมอบเป็นของขวัญให้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สำนึกว่า ควรจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และหัวหน้า คสช.
เมื่อเสร็จกิจกรรม พ.ต.อ. สมยศ ได้เชิญตัวทั้งสองคนไปที่ สน.ดุสิต และคาดว่าจะแจ้งข้อหากระทำการอันผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มาตรา 10 เนื่องจากไม่ได้เเจ้งการชุมนุมล่วงหน้า และ ข้อหาละเมิดประกาศห้ามชุมนุมในรัศมี 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาล ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายพริษฐ์ กล่าวกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด มีเพียงการทำประวัติตนกับนายธนวัฒน์เท่านั้น และอยู่ระหว่างรอ น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความสิทธิมนุษยชน เข้ามาร่วมหารือ โดยคาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ นี้
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า สิทธิในการเรียกร้องอย่างสันตินั้นเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกคน
"เราจะเเสดงความคิดเห็นต่อรัฐบาล จะคุยกับรัฐบาล เราก็ต้องไปที่ทำเนียบสิครับ ไม่มีประเทศไหนมาห้ามอะไรแบบนี้หรอกครับ" แกนนำคนอยากเลือกตั้งกล่าว
ขณะที่นายธนวัฒน์ ระบุผ่านทวิตเตอร์ของตนเองว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดและจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
อ่านจดหมายเปิดผนึกเรียกร้อง 'ประยุทธ์' ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ -หน.คสช.
อย่างไรก็ตาม แนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยระบุว่า เรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับตั้งแต่มีการประกาศพระราชกฤษฏีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารยังคงมีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ ซึ่งสามารถอนุมัติงบประมาณที่มีผลผูกพันไปยังรัฐบาลชุดหน้า อนุมัติงบประมาณไปในการหาเสียง อนุมัติโยกย้ายข้าราชการประจำ ออกกฎหมายได้ และใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อให้เกิดผลในการเลือกตั้งได้
อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงถืออำนาจเด็ดขาด ซึ่งสามารถใช้ทำอะไรก็ได้และไม่มีความผิดใดๆ ตาม ม.265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อันสามารถส่งผลต่อความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2562 และยังสามารถใช้ในการเลื่อนการเลือกตั้ง ล้มการเลือกตั้ง และลิดรอนสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนได้อยู่เสมอ
ปรากฏการณ์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสังคมไทย ที่รัฐบาลจะไม่ปรับสภาพเข้าสู่ความเป็น “รัฐบาลรักษาการณ์” อันเป็นการจำกัดอำนาจของรัฐบาลในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ในทางตรงกันข้าม กลับมีการใช้อำนาจและกลไกของรัฐอย่างเต็มรูปแบบ ที่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง
พฤติกรรมดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงสุ่มเสี่ยงทำให้การเลือกตั้งเกิดความไม่เสรีและไม่เป็นธรรม แล้วอาจทำให้ผลการเลือกตั้ง ไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน
เราจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ลาออก” จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทันทีที่ท่านตกลงรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้อำนาจเต็มและเด็ดขาดของท่าน สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง จนทำให้การเลือกตั้งนั้นเกิดความไม่เสรีและไม่เป็นธรรม
เราขอยืนยันว่า การเลือกตั้งต้องเสรีและเป็นธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถสะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยได้ หาใช่เป็นเพียงพิธีกรรมในการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ และมันสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์
เราหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ มากกว่าอำนาจของตน และให้สมกับความประสงค์ของท่าน ที่เคยกล่าวไว้ว่า “ผมอยากจะลาออกทุกวัน ไม่ได้อยากอยู่เกินแม้แต่วันเดียว”
ด้วยความไม่เคารพในสิ่งที่ท่านทำตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :