ไม่พบผลการค้นหา
ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ผ่านสภาฯ วาระ 3 แล้ว ด้วยคะแนน 281 ต่อ 0เสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาล ห่วงให้อำนาจ ปปส.ครอบคลุม ส่งเสริมการเพาะปลูก

วันที่ 8 ก.ย. 2564 ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณา "ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ. ....ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว วาระ 2 และ วาระที่ 3

สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานกรรมาธิการ นำเสนอว่า จากการยกเลิกพืชกระท่อมเป็นยาเสพติดประเภท 5 นั้น ประชาชนสามารถครอบครองบริโภคและใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมได้ จึงสมควรส่งเสริมให้มีการพัฒนาพืชกระท่อมเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยกำหนดมาตรการกำกับดูแล โดยเฉพาะการนำเข้าและการส่งออกพืชกระท่อม ที่จะต้องขอรับใบอนุญาต ส่วนการเพาะปลูกพืชกระท่อมหรือการขายใบกระท่อมนอกจากที่กฎหมายนี้บัญญัติไว้ ให้กระทำได้โดยไม่ต้องขอรับไปอนุญาต

สมศักดิ์ กล่าวว่า การบริโภคใบกระท่อมมากเกินสมควร อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมลูก จึงสมควรกำหนดมาตรการกำกับดูแลการขาย การโฆษณา การบริโภคใบกระท่อมในบางประการ เพื่อคุ้มครองสุขภาพผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว แต่ไม่ควรกำหนดมาตรการที่กระทบต่อการบริโภคใบกระท่อมตามวิถีชุมชน

สมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้คณะกรรมาธิการ ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติม เนื่องจากพืชกระท่อมเป็นพืชที่มีคุณค่าและประโยชน์ สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์สมุนไพรยาอาหาร และเครื่องสำอางได้ แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดทางกฏหมาย ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมได้อย่างเต็มที่ กระทรวงสาธารณสุข จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการ สามารถใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรยาอาหารและเครื่องสำอางได้

สัณหพจน์ สุขศรีเมือง

สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กรรมาธิการ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมลูก บริโภคพืชกระท่อม นอกจากนี้ยังห้ามจำหน่ายในสถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนสนุก เพื่อป้องกันเยาวชนบริโภคจนเกินขนาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 7/1 มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลายคนอภิปรายตั้งข้อสังเกต เช่น จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มาตราดังกล่าวให้อำนาจสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบรามยาเสพติด หรือ ปปส. สนับสนุนส่งเสริมการเพราะปลุกพืชกระท่อม ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวไม่ควรเป็นของ ปปส.แต่ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือ กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะ ปปส.มีหน้าที่ด้านการป้องกันและปราบปราม

จุรายุ

นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ ปปส.มีอำนาจล้นฟ้าจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด และการกำหนดหน้าที่ในการส่งเสริมเพาะปลูกพืชกระท่อม จึงเป็นการขยายขอบเขตอำนาจของ ปปส.ซึ่งนอกจากการสนับสนุนการเพาะปลูกแล้ว ยังให้อำนาจ ปปส.ส่งเสริมการวิจัยด้วย

นิยม

ด้าน วิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พ.ร.บ.แบ่งส่วนราชการของ ปปส.ไม่มีเรื่องของการเกษตร มีแต่อำนาจปราบปราม การให้อำนาจในการส่งเสริมการเพาะปลูกก็ดูจะขัดแย้งกับ พ.ร.บ.แบ่งส่วนราชการของ ปปส.ถือว่าผิดหลักการของการแบ่งส่วนราชการ ซึ่งหากให้อำนาจตรงนี้ ปปส.ก็ต้องไปจัดตั้งสำนักงานเพื่อส่งเสริมการปลูกพืชกระท่อมขึ้นมาอีก อาจจะมีสำนักงานปลุกใบกระท่อมจังหวัด สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

วิรัช พันธุมะผล.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการพิจารณารายมาตราในวาระ 2 แล้ว จากนั้นเป็นการพิจารณาลงมติในวาระที่ 3 ทันที

โดยที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 281 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 2