ไม่พบผลการค้นหา
สภาฯ ถกตัดงบ 'มหาดไทย' ด้าน 'ก้าวไกล' ชำแหละงบฯ ไม่โปร่งใส หน่วยงานตอบไม่ได้เรื่องความเหมาะสม ขณะ 'เสรีรวมไทย' กระทุ้ง 'กรมโยธาธิการ' ทำเขื่อนป้องกันตลิ่งรักษาดินแดนเกินจำเป็น

21 มี.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2-3 ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว มาตรา 20 กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีสมาชิกแสดงความจำนงอภิปรายเกือบ 20 คน

งบติดไฟถนนเกือบพันล้านไม่โปร่งใส

ในช่วงหนึ่ง ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น มีสิ่งที่น่าสนใจคือโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ของบประมาณมา 1,982 ล้านบาท ได้สอบถามข้อมูลในชั้นอนุ กมธ.แล้ว แต่สิ่งที่ได้ก็รู้สึกว่ายังไม่สมเหตุสมผล เพราะเมื่อไปดูไส้ในของโครงการนี้ปรากฎว่า 80% เป็นการติดไฟถนน แต่ระบุว่าเป็นบัญชีนวัตกรรม 

"ทำไมต้องเป็นไฟตามบัญชีนวัตกรรม ไฟธรรมดาไม่สว่างหรือ และการจัดซื้อจัดจ้างเหมาะสมแค่ไหน ยืนยันว่าดิฉันเห็นด้วยกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเพราะเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นและประชาชน แต่ขอตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณเกือบ 2 พันล้านบาทในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ท่านไม่นำไปพัฒนามิติอื่นเลยหรือนอกจากติดไฟ"

ภคมน กล่าวต่อไปว่า ปัญหาอยู่ที่ช่องโหว่ขนาดใหญ่ในการกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของสินค้าบัญชีนวัตกรรม ซึ่งบัญชีนวัตกรรมเหล่านี้ได้สิทธิพิเศษคือสามารถจัดซื้อจัดจ้างจากรัฐได้โดยไม่ต้องมีการประมูล เดิมทีบัญชีนวัตกรรมเหล่านี้มีเจตนาที่ดีกับรัฐ แต่กระบวนการเหล่านี้กลับเป็นช่องโหว่ให้เกิดความไม่โปร่งใส รวมถึงยังมีผู้แทนจำหน่ายแค่ไม่กี่คนทำให้สินค้านวัตกรรมเหล่านี้กลับกลายเป็นเอื้อประโยชน์ให้ผู้แข่งขันแค่ไม่กี่ราย 

ภคมน ระบุว่า ตราบใดที่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างบัญชีนวัตกรรมป้องกันการผูกขาดหรือเอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการแค่ไม่กี่รายได้ หรือยังไม่มีการตรวจสอบความคุ้มค่าของแต่ละรายการที่จัดซื้อได้ คำพูดที่บอกว่าโคมไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์คุ้มค่ากว่าโคมไฟพลังงานผ่านการจัดซื้อจัดจ้าง ประโยคเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงการกล่าวอ้างที่ยังรอการยืนยัน เช่น เสาไฟกินรี ที่จ.สมุทรปราการ หากยกตัวอย่างเช่นนี้ตนคิดว่าไม่ใช่บัญชีนวัตกรรมแต่เป็นบัญชีมีกรรม ดังนั้น จึงขอตัดงบประมาณโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด หากยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าบัญชีนวัตกรรมมีความโปร่งใส ก็ไม่สมควรได้งบประมาณในส่วนนี้

หน่วยงานตอบไม่ได้ปมสร้างฝายแกนดิน

ด้าน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้สงวนความเห็นว่า มีสมาชิกหลายคนตั้งคําถามการตัดงบประมานฝายแกนดินซีเมนต์ ตนในฐานะประธาน กมธ.ศึกษาและติดตามการจัดทํางบฯ จึงอยากอธิบายว่า การสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ในบางแห่งไม่ใช่สิ่งที่ผิด ในแหล่งนํ้าบางแห่งเป็นวิธีสร้างที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ทําหนังสือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ส่งคําของบฯ สร้างฝายแกนดินซีเมนต์ 7,000 กว่าแห่ง ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2566 แต่สํานักงบประมานตัดเหลือ 4,000 แห่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมติภายใน 1 เดือน จึงอยากทราบว่า กระบวนการที่รวบรัดเช่นนี้ ฝายแกนดินทั้งหมดมีความเหมาะสมในการสร้างทุกแห่งหรือไม่

ทาง กมธ.ศึกษาและติดตามการจัดทํางบฯ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมส่งเสริมการปกครองฯ สํานักงบประมาน ซึ่งไม่มีหน่วยงานใดยืนยันได้ว่า พื้นที่ทั้งหมดมีความเหมาะสมในการสร้าง อีกทั้งสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ยังระบุว่า ฝายไม่ได้มีหน้าที่กักเก็บนํ้า แต่มีหน้าที่ยกระดับนํ้า และหากสร้างแล้ว อาจเป็นการทําลายแหล่งนํ้า 

"ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่มีความคิดไปตัดงบให้ประชาชนเดือดร้อน แต่กระบวนการเร่งรัดตั้งงบฯ เป็นสิ่งที่ผิด จะปล่อยผ่านได้อย่างไร นอกจากนี้ ยืนยันว่า กมธ.งบฯ ตัดส่วนนี้เพราะเสียงข้างมาก ดังนั้นการกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลตัดงบฯ โดยอคติและความไม่รู้ จึงไม่ยุติธรรม หากชะลอโครงการนี้บางแห่งในปีนี้ ไม่เป็นการเสียหาย" ณัฐพงษ์ กล่าว 

ซัด 'กรมโยธาฯ' หน้าที่ครอบจักรวาล

ขณะที่ มังกร ยนต์ตระกูล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ตั้งคำถามว่าเขื่อนป้องกันตลิ่ง จำเป็นหรือไม่ บางอย่างควรให้ท้องถิ่นทำ แต่กรมโยธาธิการทำเองหมด ครอบจักรวาล ทั้งโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งเพื่อป้องกันการสูญเสียดินแดนประเทศ ชื่อฟังดูน่ากลัวแต่ไม่มีอะไร กั้นทะเล แม่น้ำนานาชาติ อย่างแม่น้ำโขง แต่สงสัยว่าถ้าน้ำทะเลจะกัดเซาะสัก 10-15 เมตร มันทำให้เราเสียดินแดนเลยเหรอ ส่วนงอกก็มี นอกจากนี้ยังโครงการบริหารจัดการเขื่อนป้องกันภัยพิบัติ ที่งบ 20 ล้านบาท ท่านว่าของเก่าไม่ดี แล้วตั้งงบตามทำไม ตอนนี้เรามีภาระหลายเรื่อง ตนถามว่าเรื่องโครงการเขื่อนนี้จำเป็นขนาดไหน ทำไมไม่ปล่อยให้ท้องถิ่นทำ ไม่ปล่อยให้อยู่กับธรรมชาติบ้าง สิ่งที่กรมโยธาธิการต้องทำคือปรับปรุงผังเมือง เรื่องนี้พอประกาศทีไร ชาวบ้านทะเลาะกันทุกที เพราะเมืองมันขยาย