ชญาภา สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศวางมือทางการเมืองและลาออกสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า กว่าพลเอกประยุทธ์จะรู้สึกตัวว่าต้องลงจากอำนาจก็ใช้เวลานานกว่า 9 ปี ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้ประเทศและพี่น้องประชาชนมหาศาล ซึ่งความจริงแล้วพลเอกประยุทธ์ไม่ควรเข้าสู่การเมืองตั้งแต่เเรกด้วยการรัฐประหารทำลายประชาธิปไตยจนประเทศเสียหายยับเยิน
ชญาภา กล่าวว่า ข้ออ้างในการทำรัฐประหารว่าเป็นการกระทำเพื่อคืนความสุขให้คนไทยและปฏิรูปประเทศนั้นขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศล้มเหลวทุกด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ซ้ำร้ายยังเกิดการบิดเบือนกติกาประชาธิปไตย สร้างกลไกในการสืบทอดอำนาจ ก่อวิกฤตการเมือง วิกฤตความขัดแย้ง สิทธิ์และเสียงของพี่น้องประชาชนถูกทำลาย กระทบจนถึงการเลือกตั้งในปัจจุบันที่พี่น้องประชาชนเลือกตั้งมาแล้วก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยได้ตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน
“ที่สำคัญ คือ การรัฐประหาร 2557 ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ยังถูกครหาว่าเชื่อมโยงกับการทำเพื่อช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องกับการสั่งสลายการชุมนุมของประชาชน คนเสื้อแดง ในปี 2553 ด้วยหรือไม่ เพราะหลังจากธาริต เปิดเผยข้อมูลการข่มขู่ไม่ให้ดำเนินคดีสลายการชุมนุม จากนายทหารใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่กล้าชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ อ้างเพียงว่าไม่เกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า หลังรัฐประหาร 2557 เป็นต้นมา การดำเนินคดีสั่งให้สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 ที่กำลังมีความคืบหน้าในยุครัฐบาลเพื่อไทย ที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องสะดุดหยุดลง จนพูดได้ว่ากว่า 9 ปี ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ คดีของคนเสื้อแดงไม่เคยได้เข้าใกล้ความยุติธรรมใดๆ เลย และชัดเจนว่ารัฐบาลประยุทธ์ ก็นิ่งเฉยต่อการสร้างความยุติธรรมให้ประชาชน” รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
ชญาภา กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชดใช้ความเสียหายที่ทำไว้กับประเทศตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่ผ่านมา ไถ่โทษด้วยการส่งสัญญาณไปถึง ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของพลเอกประยุทธ์ ให้เลิกทำตัวเป็นอุปสรรคต่อการคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน เปิดทางให้รัฐบาลประชาธิปไตยได้บริหารประเทศตามเจตจำนงประชาชน ให้รัฐบาลใหม่จัดตั้งได้โดยเร็วที่สุด เพื่อเข้ามาแก้ไขวิกฤตประเทศที่รัฐบาลประยุทธ์ทิ้งเอาไว้ รวมทั้งขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ที่ได้ตัดสินใจวางมือทางการเมืองก็ขอให้วางกุญแจบ้านหลวง คืนบ้านหลวงที่ครอบครองมานานเสียทีเพื่อให้บ้านหลวงกลับมาเป็นทรัพย์สินของราชการและถูกใช้เพื่อประโยชน์ในทางราชการอย่างแท้จริง