วันที่ 8 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่… พ.ศ.… หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ซึ่ง เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกลและคณะเป็นผู้เสนอ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอรับไปพิจารณาก่อนรับหลักการและส่งคืนมาให้สภาผู้ทนราษฎร โดยสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อให้การขออนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้าสำหรับผู้ผลิตรายย่อยสามารถทำได้

สำหรับการพิจารณาร่างกฎหมายในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตีตกร่างดังกล่าว หลังขอรับมาพิจารณาในกรอบ 60 วัน ก่อนโหวตวาระ 1 จนมีการบรรจุในวาระพิจารณาของสภาฯ อีกครั้งวันนี้ ภายหลังการอภิปรายของ ส.ส.เสร็จสิ้น ได้มีการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า

โดยที่ประชุมสภาฯ มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเเห็นด้วย 178 เสียง ไม่เห็นด้วย 137 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง จากนั้นที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน เพื่อพิจารณาในวาระ 2 ต่อไป โดยกำหนดให้แปรญัตติภายใน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่มีการประกาศผลการลงมติ ส.ส.ได้พากันปรบมือ และเดินไปแสดงความยินดีต่อ เท่าพิภพ จนประธานสภาต้องปรามว่า อย่าเพิ่งปรบมือ

ครม.ค้านหลักการร่่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า

โดยก่อนการลงมติ ที่ประชุมสภาฯ ได้ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชี้แจง โดย อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จากการพิจารณาของ ครม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสรรพสามิต ศึกษาและพิจารณารายละเอียดแล้วไม่เห็นด้วยในหลักการของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ปัญหาของผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเข้าถึงการแข่งขันในตลาดผลิตสุรา สามารถปรับปรุงกฎกระทรวงที่เหมาะสมกับสอดคล้องกับเจตนารมณ์และสถานการณ์ปัจจุบัน โดยรัฐสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณของการผลิตสุราไว้ได้ หน่วยงานด้านสุขภาพ เช่น กรมควบคุมโรค ก็แสดงความกังวลต่อผลกระทบกับชีวิตของผู้บริโภค หากพบการผลิตที่ไม่ถูกวิธี มีสารพิษปนเปื้อน 

ก้าวไกล ย้ำทลายทุนผูกขาด

จากนั้น เท่าพิภพ อภิปรายว่า คำตอบของ ครม. ไม่ได้อยู่ในใจความสำคัญหรือคำถามที่อยากจะรู้ว่า เหตุใดคนตัวเล็กจึงทำเหล้าเบียร์ขายไม่ได้ การควบคุมควรดูที่คุณภาพที่กรมสรรพสามิตมีการตรวจคุณภาพอยู่แล้ว ร่างกฎหมายนี้เป็นแค่การทลายหลักเกณฑ์ที่มองว่าเป็นการผูกขาดหรือเอื้อนายทุนเท่านั้น ขณะที่ปริมาณเบียร์ที่ผลิตคงไม่ทำให้สัดส่วนการตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และต้องประเมินว่าเสรีภาพของประชาชนกับการที่เขาจะควบคุมสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ สิ่งไหนมีค่ามากกว่ากัน ส่วนตัวเห็นว่าเสรีภาพมีค่าที่สุด

เท่าพิภพ กล่าวต่อว่า ถ้าทำเหล้าเบียร์แล้วมีคนกินเป็นอะไรไปใครรับผิดชอบ ซึ่งในส่วนนี้มีกฎหมายอาญากำกับดูแลอยู่แล้ว และคงไม่มีใครใส่ยาฆ่าหญ้าในสุราให้คนกิน โดยเป็นสิ่งที่ข้าราชการและผู้ค้าสุรารายใหญ่ พยายามใส่ร้ายชุมชนพื้นบ้านมาตลอด

พรรค รบ.หนุนสุราท้องถิ่น อัด ครม. ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น

วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้ อนุชา ชี้แจงถึงเหตุผลที่ ครม. ไม่รับร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ให้ชัดเจน การอ้างถึงสุขภาพพลานามัยของประชาชน หรือการขออนุญาตจากกรมสรรพสามิตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันนี้ คนรุ่นใหม่มีวิธีการผลิตสุราท้องถิ่นที่ปราณีตขึ้น เพราะเป็นการทำด้วยความรักอยากให้ประชาชนได้บริโภคสุราที่มีคุณภาพ

วีระกร ยังยืนยันว่า ตนจะขอโหวตให้ร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ของ เท่าพิภพ ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพหรือคุณภาพเป็นความเห็นโบราณของคนรุ่นเก่า และมองว่าหากต้องการให้เกิดความก้าวหน้า รัฐบาลควรต้องถอยหน่อย

ขณะที่ เกียรติ สิทธีอมร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เหตุผลที่รัฐบาลใช้คว่ำร่างกฎหมายนี้ฟังไม่ขึ้น มีการกล่าวอ้างว่า สุราเป็นสินค้าควบคุมที่รัฐบาลทั่วโลกถือปฏิบัติ แต่เขากำกับดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่ควบคุมว่าผลิตได้หรือไม่ได้ เรื่องนี้ไม่จริง ไม่เช่นนั้นต้องเอารายชื่อรัฐบาลประเทศไหนบ้าง เพราะจากประสบการณ์ของตนที่ผ่านมานั้นเห็นว่าไม่เป็นความจริง

เกียรติ ยกตัวอย่างประเทศเบลเยียม ซึ่งมีความที่โดดเด่นด้านเบียร์ ซี่งล้วนเป็นเบียร์ที่มาจากรายเล็ก โดยมีผู้ผลิตเบียร์รายเล็กรายน้อยนับพัน ดังนั้น ข้ออ้างในการคว่ำกฎหมายฉบับนี้ เป็นเพราะรายเล็ก ไม่มีกำลังการผลิต ก็ถือว่าฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

เช่นเดียวกับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ชี้ให้เห็นว่า ที่ปัจจุบันนั้นสุราท้องถิ่นได้เริ่มสูญหายไปจากประเทศไทย เนื่องจากกรมสรรพสามิตไม่ยอมแก้กฎกระทรวงตามที่เท่าพิภพเสนอ แต่กลับใช้กฎกระทรวงมาล็อค ผู้ประกอบการรายย่อย ตนแม้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่อยากฝืนมติพรรค แต่โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว สุราท้องถิ่นในหลายประเทศราคาสูงขึ้นมาก ตนเห็นว่ากรมสรรพสามิตชี้แจงได้ไม่ดีพอ กฎกระทรวงเอาเปรียบประชาชนอยู่อย่างเห็นได้ชัด 

'ก้าวไกล' เสนอปิดอภิปราย กลัวไม่ได้ลงมติ

จากนั้น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล เสนอญัตติขอปิดการอภิปราย เพราะเห็นว่าสมาชิกมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเกรงว่าหากลากกันอภิปรายออกไป อาจจะไม่ได้ลงมติ พร้อมเรียกร้องต่อประธานฯ ว่าหากจะให้มีการอภิปรายต่อ ประธานฯ ต้องให้คำมั่นว่าจะมีการลงมติในวันเดียวกันนี้ 

จากนั้น นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายต่อ ทำให้ที่ประชุมต้องลงมติว่าจะอภิปรายต่อหรือไม่ พร้อมกล่าวว่าไม่ควรปิดการอภิปรายเป็นการตัดสิทธิ ส.ส. คนอื่น ไหนว่าเป็นประชาธิปไตย ก่อนจะเกิดการโต้เถียงกัน จน สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาในขณะนั้น ได้สั่งพักการประชุม 10 นาที เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ไปหารือกัน

ต่อมา เมื่อเริ่มการประชุมอีกครั้ง ณัฐพงษ์ ร้องต่อประธานฯ ว่า หากประธานฯ ทำหน้าที่ต่อจนจบการประชุม ไม่ลุกจากเก้าอี้ ตนยินดีจะขอถอนญัตติ โดย สุชาติ ตอบว่า ณัฐพงษ์ กลัวกิตติศัพท์ของตนที่ปิดประชุมหรือ ไม่ต้องห่วง ตนจะทำหน้าที่ประธานต่อจนจบ จากนั้นประธานจึงให้มีการอภิปรายต่อจนจบ