เวลา 09.40 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม แยกคอกวัว กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration นำโดย เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ รุ้ง - ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล พร้อมด้วยผู้ที่ถูกออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา มาตรา 112 อีก 6 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีมูลเหตุจากการร่วมอ่านแถลงการณ์หน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี และกรณีการชุมนุมหน้ารัฐสภาเกียกกาย ได้แถลงข่าวถึงกรณีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการจัดการผู้ชุมนุมที่ต้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
โดยมีตัวแทนอ่านแถลงการณ์เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เรื่อง "หยุดกักขังความคิด หยุดปิดปากประชาชน"
เนื้อหาใจความว่า เสรีภาพทางการแสดงความคิดเห็น ถือเป็นองค์ประกอบหลักของการปกครองระบอบประชาธิปไตย เพราะการปกครองระบอบประชาธิปไตย ย่อมมีประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด
ทว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมีเนื้อหาปิดกั้น มิให้ประชาชนใช้เสรีภาพ อีกทั้งยังมีบทลงโทษที่รุนแรงเกินสัดส่วน นอกจากนี้ ในทศวรรษแห่งวิกฤตการเมืองไทยที่ผ่านมา กฎหมายมาตรานี้ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมืองตลอดมา ดังจะเห็นได้ว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายมาตราดังกล่าว โดยส่วนมาก ล้วนเป็นประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งสิ้น
วันนี้ เนื่องในวันรัฐธรรมนูญและวันสิทธิมนุษยชนสากล เราขอเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตราดังกล่าว และให้ยุติการดำเนินคดี รวมถึงล้างมลทิน และชดเชยเยียวยาผู้ที่เคยถูกดำเนินคดีจากกฎหมายมาตรานี้ทั้งหมด เพื่อเป็นการคืนความยุติธรรมแก่สังคม เปิดทางให้กระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และลดความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสังคม
พริษฐ์ ย้ำด้วยว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยนั้นล้าหลัง และป่าเถื่อน หากประเทศเป็นระบอบประชาธิปไตยจริง จะต้องไม่มีใครถูกจับกุมเพียงเพราะพูดวิจารณ์สถาบันกษัตริย์
ทั้งนี้ทางกลุ่มจะเปิดตัวเว็บไซต์ NO112 โดยจะรวบรวมความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นจากการใช้กฎหมายนี้มาตีแผ่ และจะผลักดันทุกวิถีทางเพื่อยกเลิกกฎหมายล้าหลังนี้ให้ได้ และการพูดวิจารณ์สถาบันกษัตริย์จะต้องเป็นเรื่องพื้นฐานของสังคมไทย