คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.ชัยภูมิ หาเสียงให้นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ เขต 5 บรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็น มีประชาชนร่วมฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้สอบถามความทุกข์ยากต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำว่า "หลายคนบอกว่าพรรคเพื่อไทยมาทีไร มีแต่เกษตรกรอุ้มแต่คนจน ก็ถ้าไม่ให้รักคนจน รักเกษตร จะให้ไปรักคนรวยหรือ" ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเข้าไปดูแลเกษตรกรดูแลคนจน ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ และถือเป็นกลุ่มคนสำคัญ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เพราะคือกลุ่มคนที่เป็นกำลังซื้อหลัก
คุณหญิงสุดารัตน์มั่นใจว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาเหมือนที่ทำสำเร็จมาตลอด 17 ปี ราคาข้าวหอมมะลิจะต้องไม่ต่ำกว่า 17,000 บาทต่อตัน ราคามันสําปะหลังจะต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน ราคายางพาราจะต้องไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งหมดพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้ภายในเวลา 6 เดือน สามารถทำได้จริง ไม่ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี เพราะนาฬิกาเราเองไม่ได้ยืมใครมา
"ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ทราบว่าพี่น้องมีภาระหนี้สิน พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยพักหนี้เกษตร ลดดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี ไม่จำเป็นต้องพักหนี้ถึง 5 ปี เพราะอยู่กับพรรคเพื่อไทยเพียง 3 ปีก็สามารถปลดหนี้ได้ พรรคเพื่อไทยจะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนสามารถทำมาหากินได้ผ่านสถาบัน สร้างรายได้เพื่อช่วยเหลือคนจนแต่ขอให้ตั้งใจทำมาหากิน ใครอยากทำงานต้องได้ทำงาน ใครอยากรวยต้องได้รวย"
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุด้วยว่า พรรคเพื่อไทยออกมาตรการหวยบำเหน็จเพื่อเป็นช่องทางให้พี่น้องประชาชนมีเงินเก็บเมื่อยามแก่เฒ่า ถือเป็นสวัสดิการของประชาชน และพรรคเพื่อไทยจะปรับปรุงโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคซึ่งดำเนินการมาแล้ว กว่า 17 ปี ให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยยึดหลักการ ยาดี รักษาดี ไม่ต้องรอคิว จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพิ่มความสะดวกให้พี่น้องประชาชน และต้องเป็นคนที่สูงวัยแบบสวยวันสวยคืน
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชน จะเลือกพรรคเพื่อไทยเพียงแค่ชนะเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะไม่เพียงพอ กับคะแนนของฝ่ายผู้มีอำนาจ ทีมี ส.ว.250 คน อยู่ในกระเป๋า จึงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย แบ่งคะแนนใครไม่ได้ ขอพี่น้องอย่ากลัวใคร อย่าเกรงใจใคร ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ถึงจะได้สุดารัตน์ เข้าไปทำงาน หากเลือกผู้สมัครพรรคอื่นจะต้องอยู่กับลุงไปอีกนาน วันที่ 24 มี.ค.ได้เวลาทวงคืนความสุข ทวงเงินในกระเป๋ากลับคืนมา
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังลงพื้นที่ ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เพื่อหาเสียงช่วย นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ เขต 6 พรรคเพื่อไทย เดินตลาดท่ามกลางสายฝน ร่วมกับประชาชน รับฟังปัญหาเศรษฐกิจปากท้องกับผู้ค้าภายในตลาดน้อย ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น ประชาชนจำนวนมากรุมล้อมขอถ่ายภาพ รวมถึงมอบของที่ระลึก และกล้วยซึ่งเสมือนเป็นการอวยพรให้ชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดาย
ตลอดเส้นทางภายในตลาด ประชาชน ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ส่งเสียงให้กำลังใจขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประเทศ นอกจากนี้ยังได้แวะเยี่ยมชมร้านค้าและสินค้าชุมชนของพี่น้อง ชาวตำบลช่องสามหมอ พร้อมซื้อสินค้าติดมือกลับไปรับประทาน
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังพูดคุยกับประชาชนโดยระบุว่า ขอให้เลือก นพ.สุรวิทย์อย่างถล่มทลาย เพราะฝ่ายผู้มีอำนาจ มี ส.ว. 250 คน ซึ่งเขาจะเลือกกันเอง ดังนั้นต้องเลือกเพื่อไทยยกจังหวัด เอาทีมบริหารพรรคเพื่อไทย เอาสุดารัตน์เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ
‘ชัชชาติ’ ปูพรมอีสาน โปรย ‘หวยบำเหน็จ’ วอนเลือกเพื่อไทย ฝังเผด็จการ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหาเสียง ใน จ.ชัยภูมิ และ จ.นครราชสีมา โดยมีการปราศรัย 3 จุด ที่ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ อ.ด่านขุนทด และ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยทั้งสองจังหวัดมีประชาชนออกมาให้การต้อนรับและมาร่วมฟังปราศรัยเป็นกว่าหลายพันคน ขณะที่นายชัชชาติ ได้สักการะอนุสาวรีย์ขุนทด ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย
โดยนายชัชชาติ เริ่มกล่าวปราศรัยที่ อ.จัตุรัส ว่า การเลือกตั้งวันที่ มี.ค.นี้ คือวันตัดสินอนาคตว่าจะอยู่ข้างเผด็จการหรือประชาธิปไตย ซึ่งเพื่อไทยได้ยืนหยัดเป็นหัวหอกในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เข้ามาสร้างความเป็นอยู่เข้าดูแลพี่น้อง หากประชาชนร่วมใจกันเลือก พรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย นอกจากผู้สมัครของพรรคที่มีความสามารถที่พร้อมดูแลพี่น้องประชาชน ก็จะได้ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และตนเองเข้ามาร่วมกันผนึกกำลังบริหารประเทศ
โดยประชาธิปไตยนั้นเรามีอำนาจในมือเรา สามารถไม่เลือกผู้สมัครในครั้งหน้าหากไม่ทำตามสัญญา แต่ในปัจจุบันประชาชนไล่ก็ไม่ไป โดยที่ผ่านมา 5 ปี ใช้งบประมาณ 14 ล้านล้านบาท แต่ผลประโยชน์ไม่ตกมาถึงประชาชน และยังสร้างหนี้จำนวนกว่าสองล้านล้านบาท จึงขอให้ประชาชนมาร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อก้าวพ้นวิกฤตนี้
ขณะที่การปราศรัยที่เวที อ.ด่านขุนทด นายชัชชาติ ระบุว่า จากการลงพื้นที่มาหลายจังหวัด ชาวบ้านต่างบอกว่าไม่มีความสุขและกระเป๋าแฟบ ซึ่งจากการสอบถามอดีต ส.ส.ของเพื่อไทยในพื้นที่โคราช พบว่าในพื้นที่เกษตรกรและชาวนาได้เปลี่ยนแปลงไปปลูกอ้อย เพราะราคาตกต่ำเนื่องจากรัฐบาลนี้บริหารไม่เป็น ขณะเดียวกันก็ไม่มีการเหลียวแลคนตัวเล็กตัวน้อย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่
โดยพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าว่า ถ้าในอนาคตเศรษฐกิจดีขึ้น เมื่อเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทำให้ทุกคนถือบัตรคนรวย และรวยอย่างเท่าเทียม โดยเพิ่มเบี้ยคนชราเป็น 1,000 บาท หลังจากนั้นจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนโยบาย 4 ล้อ คือ พักหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่
อย่างไรก็ดี ล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้ออกนโยบายใหม่ คือ หวยบำเหน็จ ที่เป็นแนวคิดในการรองรับสังคมสูงอายุ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนสินทรัพย์จากการลงทุนและการออม กลายเป็นเงินก้อนในวัย 60 ปี ไว้ใช้ในช่วงสูงวัย
"การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงมีความสำคัญต่อพวกเราและอนาคตของลูกหลาน จึงขอให้ประชาชนที่ฟังการปราศรัยวันนี้ ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ เอาปากกาไปฆ่าเผด็จการ และฝังเผด็จการ ยกทั้งจังหวัด" นายชัชชาติ ระบุ