เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เผยแพร่แถลงการณ์ขอสนับสนุนการใช้เสรีภาพการแสดงออกของนักศึกษา และขอประณามการลิดรอนเสรีภาพการแสดงออกของนักศึกษา กรณีการบริหารงานของคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คนส. ได้ติดตามการบริหารงานของคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่เพียงต่อกรณีการจะตรวจสอบผลงานนักศึกษาก่อนการจัดแสดงในขณะนี้ แต่ยังมีการริบผลงานของนักศึกษาเมื่อก่อนหน้านี้ และยังมีการปิดกั้นการจัดแสดงผลงานของนักศึกษาด้วยวิธีการเชิงงบประมาณในช่วงปีที่ผ่านมา
คนส. เห็นว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวของคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีลักษณะปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออก ปิดกั้นเสรีภาพทางวิชาการ อันเป็นหลักการสำคัญที่หล่อเลี้ยงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและยังเป็นพื้นฐานสำคัญของหลักสิทธิมนุษยชน
ต่อกรณีดังกล่าว คนส. จึงมีข้อเรียกร้องต่อคณะวิจิตรศิลป์และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดังนี้
1. ขอให้คณะวิจิตรศิลป์ มช. ยึดมั่นในหลักเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพการแสดงออก มหาวิทยาลัยได้ชื่อว่าเป็นสถาบันที่จะต้องผลิตความรู้ที่แปลกใหม่ ท้าทายความเชื่อดั้งเดิม ตลอดจนสร้างสรรค์ความคิดอ่านที่แตกต่างไปจากกระแสสังคมทั่วไปอยู่เสมอ หากมหาวิทยาลัยเองยังกลับปิดกั้นการแสดงความเห็นที่แตกต่างและมุ่งที่จะเพียงผลิตซ้ำอุดมการณ์หรือความเชื่อไปตามกระแสสังคมแล้ว มหาวิทยาลัยจะมีบทบาทแตกต่างอะไรกับสถานศึกษาหรือสถาบันทางศาสนา ที่ผลิตซ้ำอุดมการณ์ของรัฐและค่านิยมดั้งเดิมของสังคมเป็นหลัก ถ้าอย่างนั้นสังคมโดยกว้างจะมีมหาวิทยาลัยไปเพื่ออะไร
2. ขอให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยืนยันและปฏิบัติให้เห็นจริงว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ยึดมั่นต่อสิทธิเสรีภาพและการแสดงของนักศึกษาและนักวิชาการ หาไม่แล้ว ความพยายามที่จะสร้างสถาบันอุดมศึกษาให้เป็นสถาบันที่อยู่ในอันดับสูงในโลกก็จะไร้ความหมาย มหาวิทยาลัยก็จะกลายเป็นพื้นที่การศึกษาที่มิได้ส่งเสริมการแสวงหาความรู้และการแสดงออกทางความเห็นได้อย่างอิสระ ไม่สามารถสร้างความก้าวหน้าทางวิชาการและยกระดับจิตวิญญาณอย่างแท้จริง จนในที่สุดแล้ว มหาวิทยาลัยจะกลายเป็นสถาบันที่ลิดรอนเสรีภาพการแสดงออกและลิดรอนสิทธิมนุษยชนไปเสียด้วยตนเอง
3. ขอให้คณะและมหาวิทยาลัยปฏิบัติต่อนักศึกษาเยี่ยงครูปฏิบัติต่อศิษย์ หากผู้บริหารไม่เห็นด้วยกับความเห็นและการแสดงออกของนักศึกษา ก็สมควรที่จะแลกเปลี่ยนกับพวกเขาด้วยปัญญา หรือใช้เหตุผลโน้มน้าว ไม่ใช่ด้วยการใช้อำนาจบาตรใหญ่หรือกระทั่งใช้กฎหมายร้ายแรง ที่นับวันจะถูกบิดเบือนไปใช้เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากขึ้นทุกวัน
นักศึกษาเป็นเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตของสังคมไทย การปกป้องเสรีภาพการแสดงออกของพวกเขาอย่างแข็งขันดังที่เกิดขึ้นนี้เองที่จะแสดงให้สังคมไทยและนานาชาติเห็นว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้าใจและดื่มด่ำลึกซึ้งถึงเสรีภาพการแสดงออก ตลอดจนกล้าลุกขึ้นปกป้องสิทธิมนุษยชนของตนเองอย่างแข็งขันและสันติ
คนส. ขอยกย่องความยึดมั่นต่อเสรีภาพการแสดงออกตลอดจนความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนอย่างกล้าหาญและสันติของนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
22 ตุลาคม 2564