ไม่พบผลการค้นหา
'มงคลกิตติ์' นำพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงออกจากการเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ย้ำผู้ใหญ่ไม่มีสัจจะ สายเกินไปแล้วที่จะพูดคุย ลุยเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาล ทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนอย่างเป็นอิสระ

วันนี้ (13 ส.ค.) ที่โรงเรียมเซ็นทราศูนย์ราชการ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำแถลงในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ มีมติเอกฉันท์ ขอเปลี่ยนสถานะจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านอิสระยืนข้างประชาชน หรือเรียกว่า 'ฝ่ายค้านประชาชน' อย่างเป็นทางการ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรคนั้นเป็นเอกเทศ ย้ำต่อจากนี้ สภาไม่ได้มีแค่ฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้าน แต่มีฝ่ายค้านอิสระ อีก 1 คน

ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมกับรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 พ.ค.62

1.เปิดสวิตช์ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้

2.เอานโยบายของพรรคไปขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน

3.เพื่อต้องการให้ ม.44 หายไป ส่งทหารกลับเข้ากรมกอง สร้างความมั่นใจให้กับนักทุน 

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินในออกจากการเข้าร่วมรัฐบาล คือ 

1.ในการทำงานในสภาในฐานะฝ่ายรัฐบาล ตนรู้สึกไม่มีอิสระในการทำงานตรวจสอบรัฐบาล มีการบล็อก ไม่ให้ปรึกษาหารือในเรื่องกระทู้สด ในเรื่องวิธีการ

2.พรรคพลังประชารัฐไม่ให้เกียรติ ไม่นำนโยบาย ไปดำเนินการ

2.1 แนวคิดของนายอุตตม สาวนายน โดยเสนอให้เพิ่มภาษีน้ำมันผลักภาระให้ประชาชน ซ้ำเติมความเป็นอยู่ของประชาชนที่แย่อยู่แล้ว

2.2 ออกนโยบายประชานิยม ซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะ 

2.3 รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะกู้เงิน IMF รอบสอง เพื่อชดเชยการขาดทุนเรื่องงบประมาณ ซึ่งในอนาคตไทยอาจถูกบีบให้ขายรัฐวิสาหกิจเพิ่ม 

3.ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐไม่รักษาสัจจะในการเข้าร่วม รัฐบาลไม่ใส่ใจการแก้ปัญหาอย่างให้เกียรติ ต้องให้ 10 พรรคต้องมาเรียกร้อง ซึ่งปัจจุบันมันสายไปแล้ว 

4.สำคัญมาก คือกรณี ที่นายกฯ และครม.ถวายสัตย์ฯ ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มีการแถลงสปิริต ทางการเมือง หรือแก้ไขให้ถูกต้อง

โดยจุดยืนของพรรคไทยศรีวิไลย์ มีอยู่ 4 ประการ

1.ตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่ขอรับตำแหน่งฝ่ายบริหารนอกจากฐานะผู้แทนที่ประชาชนเลือกมา

2.ทำหน้าที่รับฟังปัญหาของประชาชน

3.ยังเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสามารถบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ต้องแก้สิ่งที่ผิด ถ้าไม่แก้ก็บริหารประเทศต่อไปไม่ได้ 

4.ยืนยันยืนข้างประชาชนอย่างสร้างสรรค์ เรื่องที่ถูกเข้าร่วม เรื่องที่ผิดค้าน เป็นฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์

เมื่อถูกถามถึงพรรคที่เหลือ นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า เป็นเรื่องปัจเจกของแต่ละพรรค แต่ยังนั่งด้วยกัน ความเป็นเพื่อน ยังมีความสัมพันธ์ส่วนตัวค่อนข้างดี

“เรื่องพวกนี้จะไม่เกิดถ้าผู้ใหญ่ไม่รักษาคำพูด นี่ครั้งที่สองแล้ว ปัจจุบันการทำงานด้วยกันต้องเชื่อใจกัน น่าเชื่อถือ เมื่อพูดไปแล้วคำพูดเป็นนาย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่ได้” นายมงคลกิตติ์ กล่าว


มงคลกิตติ์

นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังย้ำแนวทางนโยบายของเรามีเสรีภาพของเราในการทำงานมากขึ้น มุ่งทำงานนโยบายปราบทุจริต

ต่อจากนี้ขอตั้งตัวเป็นประธานวิป ฝ่ายค้านประชาชน ถ้าพรรคไหนอึดอัดสามารถมาอยู่ร่วมกันได้ ถ้าอยู่ด้วยกันจะมีการผลัดเปลี่ยนเป็นประธานวิป 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าการเป็น ส.ส. อิสระ ไม่ต้องมีวิปมาบีบให้พูดหรือไม่พูด 

“ผมอึดอัดมานาน 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าเราเป็นฝ่ายค้านมีอิสระมากกว่า ไม่ต้องมีใครบังคับให้พูดอะไร รักษาผลประโยชน์ของประชาชนได้มากกว่า” มงคลกิตติ์ กล่าว

เมื่อถูกถามถึงประเด็นว่าถูกลอยแพหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องต่อรองเลย ผู้ใหญ่รับปากเลยว่า ไทยศรีวิไลย์ได้ พรรคอื่นไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องต่อรองผลประโยชน์ ถ้าเอาผลประโยชน์ จะออกทำไม ถ้าผมอยู่รัฐบาลมีตำแหน่งฝ่ายบริหาร แล้วเขาจัดซื้อเครื่องบิน กู้เงิน ก็ขวางไม่ได้ ซึ่งขัดกับนโยบายของพรรค

อ่านเพิ่มเติม: