ไม่พบผลการค้นหา
'อนงค์วรรณ' ขอบคุณ ป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรม ยกคำร้องคดีฝายแม้ว ยิ้มออก เป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว โอด ที่ผ่านมารู้สึกเสียใจ-ทุกข์ใจนาน 13 ปี งงเจ้าหน้าที่ไปตรวจปี 62 แต่ฝายสร้างปี 51 มีอายุเฉลี่ย 3-5 ปีเท่านั้น เผยเปลี่ยนอนุกรรมการหลายชุด แต่ไม่เคยเรียกสอบแม้แต่ครั้งเดียว

วันที่ 28 พ.ค. อนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภรรยาของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติยกคำร้อง คดีโครงการฝายแม้ว 770 ล้านบาท ว่า เรื่องดังกล่าวตนได้รับทราบจากการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ต้องขอขอบคุณกรรมการ ป.ป.ช. ที่ให้ความเป็นธรรมกับตน ซึ่งวันนี้ เป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว แต่ที่ผ่านมา รู้สึกเสียใจ และทุกข์ใจ โดยไม่สามารถทดแทนความรู้สึกช่วงที่ผ่านมาได้ เพราะตนมองหน้าใคร ก็ไม่เต็มตามาเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากหลายคนเสพสื่อ ที่กล่าวหาตนอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานถึง 13 ปี ซึ่งถ้าไม่เป็นตน ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่า สาหัสแค่ไหน

อนงค์วรรณ กล่าวอีกว่า เรื่องของตน เป็นเหมือนนวนิยายลึกลับจริงๆ เพราะเริ่มจากมีคนร้องเมื่อปี 2551 แต่พอมีคนไปถามคนร้อง กลับบอกว่า ไม่ได้เป็นผู้ร้อง จากนั้น ในปี 2552 ป.ป.ช. ส่งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนมาให้ โดยผ่านมา 13 ปี เปลี่ยนคณะอนุกรรมการไปหลายชุด ก็ไม่เคยเรียกตนไปสอบปากคำแม้แต่ครั้งเดียว และเมื่อกลางปี 2563 ก็ได้รับแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งในข้อความ ก็เหมือนนิยาย เนื่องจากเวลาผ่านมานานมาก และตนก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมเอกสาร เพื่อประกอบคำชี้แจง ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก

อนงค์วรรณ เทพสุทิน

เอกสารที่เราเจอ คือ เขาไปตรวจพื้นที่สร้างฝาย เมื่อปี 62 แต่ฝายแม้ว มีอายุอย่างมาก 3-5 ปี ซึ่งฝายชุดนี้ สร้างเมื่อปี 51 ผ่านมา 12 ปี เหลือให้เห็นบ้าง ก็ต้องยกให้เป็นวีรสตรีกันแล้ว และที่สำคัญหลายปีมาแล้ว กรมบัญชีกลาง ก็แจ้งว่า ราชการไม่เสียหาย แต่เขาก็ไม่นำมาประกอบการพิจารณา โดย ป.ป.ช.บางคนจะเอาผิดให้ได้” อนงค์วรรณ กล่าว

อนงค์วรรณ กล่าวอีกว่า การปรับงบประมาณในครั้งนั้น เกิดจากมติ ครม. รัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ให้เป็นเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อน และต้องเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งหลายกระทรวงก็พากันทำฝาย รวมทั้งกระทรวงทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก