เลือกตั้ง
'ประยุทธ์' เข้าทำเนียบฯ ยังไม่ตอบสื่อ -'วิษณุ' ปัดวิจารณ์ กกต.
ภายหลังผลนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการบ่งชี้ว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้คะแนนรวมสูงสุด มีความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. โดยช่วงเช้าวันนี้ (25 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านพักจนถึงเวลา 09.30 น.
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ในชุดข้าราชการสีกากีเดินทางด้วยรถเบนซ์ส่วนตัวทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยถึงที่ทำเนียบเมื่อเวลา 09.37 น. เมื่อสื่อมวลชนพยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่ยกมือขึ้นทักทายด้วยสีหน้าปกติ ก่อนจะเดินเข้าไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที โดยมี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารอรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันนี้ นายกรัฐมนตรีไม่มีภารกิจประชุมหรือพบแขกต่างประเทศ มีเพียงเวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีมีกำหนดร่วมพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต
'วิษณุ' ไม่ขอวิจารณ์การทำหน้าที่ กกต.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ผลการนับคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพราะยังไม่มีความชัดเจน และไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีที่ กกต.ถูกโจมตีเรื่องการนับคะแนนเช่นเดียวกัน
ขณะนี้ยังไม่เห็นโครงร่างการจับมือจัดตั้งรัฐบาลของแต่ละพรรค ซึ่งส่วนตัวยังเห็นว่ามีความน่ากังวล เพราะถ้าตัวเลขแต่ละพรรคการเมืองใกล้เคียงกัน ต้องคิดมองถึงเสถียรภาพรัฐบาลในอนาคต แต่เข้าใจว่าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ หากมีการประกาศผลการนับคะแนนถึงร้อยละ 95 และประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะขณะนี้การเลือกตั้งยังผ่านมาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เชื่อว่าหลังจากปิดหีบนับคะแนนจะมีความแน่นอนอีกหลายอย่าง หากนำประสบการณ์จากการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาก็จะมีการร้องเรียนผลการเลือกตั้งเกิดขึ้นอีก ส่วนผลอย่างเป็นทางการจริงๆ คาดว่าจะทราบประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะที่การเจรจาพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น สามารถพูดคุยก่อนที่ กกต.รับรอง ส.ส.แล้วเสร็จภายใน 60 วันได้ และส่วนตัวเชื่อว่าแต่ละพรรคการเมืองได้พูดคุยกันแล้วหลังปิดหีบการเลือกตั้งแล้วเสร็จ แต่ถือเป็นการพูดคุยเท่านั้น ซึ่งต้องรอความชัดเจนจาก กกต.อีกครั้ง
ทั้งนี้ พรรคที่ได้คะแนนเสียงข้างมากอาจจะพูดคุยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อนได้ แต่ระหว่างนั้นก็ไม่สามารถมาตัดสิทธิพรรคการเมืองได้คะแนนอันดับ 2 และอันดับอันดับ 3 หรือพรรคการเมืองเล็กอื่นๆ ได้ เพราะถือว่าพรรคคือผู้แทนราษฎรของประชาชน แต่ถึงเวลาเปิดสภาต้องให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนมากที่สุด เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีก่อน เช่นเดียวกันพรรคการเมืองอื่นๆ ก็จะมีการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่ให้แต่ละพรรคการเมืองมีรายชื่อนายกรัฐมนตรีไว้ หลังจากนั้นก็มาโหวตกันว่าใครจะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าได้คะแนนเสียงสนับสนุนไม่ถึงครึ่งก็ต้องเอาสู่ขั้นตอนที่ 2 และ 3 ต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกติกามาตรา 272
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังแปลกใจว่า ทำไมผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมีจำนวนน้อยลงกว่าที่คิดทั้งที่เห็นการเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนตัวก็ไม่ทราบสาเหตุ ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นที่บางฝ่ายมาโจมตี กกต.ในการทำหน้าที่ อาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
