นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่หลักสี่ ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งนายสิระได้นำถุงยังชีพ และเงินสดไปมอบให้กับครอบครัวของผู้ป่วยด้วย โดยนายสิระ กล่าวว่า ผู้ป่วยติดเตียงทุกคนเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ต้องใช้เงินในการเดินทางไปโรงพยาบาลจำนวนมาก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ ยา อาหาร ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถหาเงินได้ในแต่ละวัน บางคนยังดีที่มีครอบครัวดูแล แต่ภาระก็ตกไปอยู่สมาชิกในครอบครัว แต่ผู้ป่วยบางคนไม่มีครอบครัวมาดูแล ยิ่งลำบากหนัก
“เบี้ยพิการ 800-1000 ที่ทางรัฐมอบให้นั้น ต้องยอมรับว่าไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต ผมจึงอยากฝากไปถึงท่านนายกฯหากเป็นไปได้อยากให้มีการเพิ่มเบี้ยคนพิการให้มากขึ้น และให้พิจารณาแผนความช่วยเหลือระยะยาวให้ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงอย่างเป็นรูปธรรม โดยที่กระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันทำงานออกมาตรการให้คนเหล่านี้เข้าถึงการรักษาพยาบาลให้สะดวกมากขึ้น เพราะมีหลายคนที่ยอมที่จะไม่ไปรักษา เพราะไม่มีเงินสำหรับการเดินทาง”นายสิระ กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงปัญหาความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ นายสิระ กล่าวว่า สำหรับตนนั้น ตนเชื่อมั่นในประสบการณ์ของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ว่าจะนำพาพรรคไปในทางที่ดีและเหมาะสมที่สุด และตนก็เชื่อว่าสมาชิกในพรรคทุกคนต่างก็เคารพในบารมีของพลเอกประวิตร เพราะ ส.ส.ทุกคนรู้ดีว่าตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ทำงานมา พลเอกประวิตร เป็นผู้ใหญ่ในพรรคที่ติดตาม ดูแล การทำงานของ ส.ส.อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรทุกคนสามารถปรึกษาพลเอกประวิตรได้ตลอด วันนี้พรรคมีพลเอกประวิตรที่ถือว่าเป็นหลักยึดเหนี่ยว ฉะนั้นหากท่านตัดสินใจอย่างไรทุกคนก็ย่อมให้ความเคารพการตัดสินใจของท่านและพร้อมทำตามทุกอย่าง
นอกจากนี้ นายสิระ ยังแสดงความเห็นถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และฝ่ายค้านเรียกร้องให้ยกเลิกบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ว่า นายจตุพร ไม่ได้เป็น ส.ส แต่ตนเป็น ส.ส. ลงพื้นที่รับฟังความต้องการของพี่น้องประชาชนตลอด ที่ผ่านมาประชาชนก็ให้ความร่วมมือและยังไม่พบบุคคลใดเรียกร้องให้ยกเลิก และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือว่าเป็น ผลดีต่อการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และยังเป็นการทำให้รัฐบาลทำงานได้สะดวกขึ้น ส่วนที่บอกว่า รัฐบาลกลัวม็อบ อยากให้นายจตุพรกลับไปบอกคนที่จะก่อม็อบ ว่าที่ผ่านมานายจตุพร เคยโดนอะไรมาบ้างและต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาไปกี่รอบแล้ว ถ่วงเวลาไปทำไมถ้าแน่จริงอย่าเลื่อนนัดศาลอีก ติดคุกก็คือติด ผิดก็คือผิด จะมายุให้รุ่นน้องก่อม็อบถือเป็นนักการเมืองที่ไม่ดี
“รัฐบาลจะเสนอ พ.ร.ก.เงินกู้ เข้าสภาในการเปิดสมัยประชุมที่จะถึงนี้ จึงต้องการขอให้ ครม.พิจารณาเรื่องความเดือดร้อนของผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียง ก่อนที่จะไปพิจารณาเรื่องการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย เพราะยังไม่มีความเร่งด่วนแต่คนพิการ ซึ่งตอนนี้คนป่วยติดเตียงจะตายกันหลายคนแล้ว เพราะว่าไม่มีเงินที่จะดูแลรักษา ก็ขอให้ ครม.เอาเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาก่อนเรื่องการฟื้นฟูการบินไทย” นายสิระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่ง กอ.รมน. ทำโพลสำรวจสำรวจความเห็นการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าสมควรหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นการรับฟังความเห็นตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็หาว่าเป็นเผด็จการ พอจะรับฟังความเห็นของระชาชนตามระบอบประชาธิปไตยก็มาเรียกร้องขอเหตุผล