ไม่พบผลการค้นหา
เพื่อไทย เตรียมยื่น คสช.เปิดเผยชื่อกรรมการสรรหา ส.ว. พร้อมจี้เจ้าหน้าที่นำคนทำร้ายนายเอกชัย หงส์กังวาน มาลงโทษ เชื่อหากอำนาจรัฐไม่เกี่ยวด้วย ต้องจับได้นานแล้ว

พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ประนามกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่รุมทำร้ายนายเอกชัย หงส์กังวานนักกิจกรรมทางการเมืองและเรียกร้องให้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วและตรงไปตรงมา โดยนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายเอกชัย เป็นนักกิจกรรมอิสระที่ตรวจสอบการทำงานของบุคคลสำคัญในรัฐบาลมาโดยตลอดโดยเฉพาะเรื่องนาฬิกาหรูของรองนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็ถูกทำร้ายและคุกคามเรื่อยมาถึง 9 ครั้งในรอบ 15 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้าและไม่เคยจับกุมคนร้ายได้ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า อำนาจรัฐอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และนอกจากนายเอกชัยแล้ว ยังมีประชาชน นักการเมืองและนักกิจกรรมอื่นๆอีกหลายคน ที่ถูกอำนาจรัฐใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบ

นางลดาวัลลิ์ ระบุถึงตอนท้ายจากแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคเพื่อไทยขอประณามการกระทำดังกล่าว และไม่เชื่อว่ารัฐบาลปัจจุบันซึ่งได้ใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมมาโดยตลอด และกำลังพยายามสืบทอดอำนาจต่อไป จะยุติการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยพรรคเพื่อไทยเชื่อว่า หากรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็จะสามารถติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว

ปัดข่าว พปชร. มอบประธานสภาฯให้ พท. จี้ คสช. เปิดชื่อกรรมการลากตั้ง ส.ว.

นางลดาวัลลิ์ ย้ำถึงข่าวลือที่ว่าพรรคเพื่อไทยติดต่อทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐโดยจะให้ตำแหน่งประธานสภาเป็นการตอบแทนนั้นไม่เป็นความจริง ส่วน ส.ว. 250 คนที่มีการโปรดเกล้าฯแล้วนั้น คณะทำงานกฎหมายพรรคเพื่อไทยกำลังตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมรายละเอียด โดยก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.ให้เปิดเผยคณะกรรมการสรรหา ส.ว.แต่ กกต.มีหนังสือตอบกลับมาว่าให้ไปถาม คสช.

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะไปยื่นหนังสือถึง คสช.ในวัน 15 พ.ค. ซึ่งยังไม่กำหนดเวลาและสถานที่ โดยประเด็นสำคัญคือขอให้เปิดเผยชื่อคณะกรรมการการสรรหา เพราะประชาชนมีสิทธิ์ที่จะต้องรับรู้ สำหรับแนวทางปิดสวิตช์ ส.ว.นั้น นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวต้องการให้ ส.ว.มีสำนึก โดยการงดออกเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยให้ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้เลือกประมุขฝ่ายบริหารเท่านั้น