วันที่ 7 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา การประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 4 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 เพิ่มมาตรา 25 วรรคห้า แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 29 เพิ่มมาตรา 29/1เกี่ยวกับสิทธิชุมชน

ร่างแก้ไขเพิ่มเติม หมวดว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 34 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 47 และมาตรา 48 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 159 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสอง เกี่ยวกับที่มานายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ศ.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะเป็นผู้เสนอ และ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 ซึ่ง สมชัย ศรีสุทธิยากร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 64,151 คน เป็นผู้เสนอ เป็นการพิจารณาในวาระที่หนึ่ง ขั้นรับหลักการ

โดย วันชัย สอนศิริ ส.ว. ได้อภิปรายถึงการเสนอแก้ไขมาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี จากที่ตนได้ฟังการอภิปรายตั้งแต่เมื่อวาน มีสมาชิกฯ ฝ่าย ส.ส.บางท่าน ได้กล่าวหา ตำหนิ ด่าเสียดสี ประชดประชันต่างๆ ต่อ ส.ว. ตนได้แสดงจุดยืนมาหลายโอกาส และครั้งนี้ตนขอยืนยันว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 272 ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

วันชัย ให้เหตุผลว่า ความจำเป็นของสถานการณ์ในช่วงนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วในปัจจุบัน จะมีมาตรา 272 หรือไม่มี ก็แทบไม่มีความหมายอะไร ตนไม่อยากให้เพื่อนสมาชิกติดกับดักกับมาตรา 272 มากเกินจำเป็น เพราะผู้มีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ มีเพียง ส.ส. เท่านั้น รัฐธรรมนูญไม่ได้เปิดช่องให้ ส.ว. มีโอกาสเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี

“แม้ว่า ส.ว. ทั้ง 250 คน อยากได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ก็ทำไม่ได้ ถ้า ส.ส.ไม่เสนอท่าน หรือเสนอคนนั้นคนนี้เป็นนายกฯ รัฐมนตรี จึงขอเรียนว่า คนที่จะเป็นนายกฯ ได้นั้น ต้องมาจากเสนอโดย ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนเท่านั้น” วันชัย กล่าว

วันชัย ยังย้ำว่า การลงคะแนนเลือกนายกฯ นั้น ต้องใช้เสียงในรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่งเท่านั้น หากเสียงไม่ถึง ส.ว.ก็ไม่มีทางเลือกคนนั้นเป็นนายกฯ เพราะเลือกไปก็ไม่รอด อยู่ได้ไม่กี่เดือน จึงยืนยันได้ว่าทั้งหมดย่อมมาจาก ส.ส. โดยแท้ ขณะที่รัฐบาลปัจจุบันซึ่งดำรงคงอยู่มาจนทุกวันนี้ อยู่ได้ก็เพราะ ส.ส. ไม่ใช่ ส.ว.แต่อย่างใด มาตรา 272 มีขึ้นเพื่อใช้ในช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น เมื่อบริบทเปลี่ยน มาตราดังกล่าวก็ไร้น้ำยา

“พวกท่านกำลังถูก 272 บังตา และกำลังถูกผี 272 หลอกตัวท่านเองต่างหากเล่า แท้ที่จริง ท่าน ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถ้ารวมกันได้เกินกว่า 251 เสียง หรือ 375 เสียงขึ้นไป ถามจริงเถิด ส.ว.จะไปมีน้ำยาอะไร ส.ว.จะไปทำอะไรได้ จะไปตั้งใครเป็นนายกฯ ได้ เพียงแต่ท่านที่มาจากการเลือกตั้งนั้น ไม่สามารถรวมกันเองได้ต่างหากเล่า”

“ถามจริงเถิด มาหาว่า ส.ว.นั้นรับใช้ ว่าใช้หนี้บุญคุณ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สารพัดด่า แล้วเคยคิดไหมว่า ทำไมไม่ด่าพวกที่มาจากการเลือกตั้งด้วยกันเอง ว่าทำไมเราไม่รวมกัน ไม่แข็งขืนกัน ทำไมพวกเราแท้ๆ ที่มาจากการเลือกตั้งถึงไปรวมกับคนอื่น ไม่รวมกับพวกเราที่กล่าวหาด่าว่า ส.ว.อยู่นี่ เคยคิดไหม เคยถามตัวเองไหม มาจากการเลือกตั้งด้วยกัน กลับไม่อยู่ด้วยกัน แล้วมาโยนบาปให้ ส.ว.” วันชัย กล่าว 

‘กิตติศักดิ์’ ได้ทีขุดจำนำข้าวโทษ ‘ยิ่งลักษณ์’ เหตุ รปห.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. อภิปรายตอนหนึ่งว่า ปรากฏการณ์เมื่อวาน (6 ก.ย.) นั้น ทำให้กลับไปคิด ตนได้รับโทรศัพท์หลายสายว่า ส.ว. ยังมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอยู่หรือไม่ ปล่อยให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถล่มข้างเดียว ตนไม่ได้ใช้สิทธิชี้แจงตอบโต้ผู้ที่กล่าวหาเพราะเห็นว่าเป็นไปตามข้อบังคับ แต่ประธานฯ สั่งให้ตนห้ามพูด ไม่เป็นไร เราอยู่ในรัฐสภา ต้องเคารพประธานฯ และกติกา จะถูกหรือผิด ประชาชนดูอยู่

“ไม่ได้บอกว่า ส.ส. จะดีเด่นทุกท่าน แน่นอนว่า ส.ส.ไม่ได้ดีเด่นทุกคน บางคนซื้อเสียง รับแจกกล้วย ส.ส.บางคนใช้ความดีซื้อใจคน แต่นักการเมืองชั่วบางคนใช้เงินซื้อเสียง” กิตติศักดิ์ กล่าว

กิตติศักดิ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องมี ส.ว. และการรัฐประหาร โดยเล่าย้อนว่า เมื่อปี 2554 รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ โดยมีโครงการจำนำข้าว ซึ่งส่วนตัวได้ตรวจสอบที่ จ.พิจิตร แล้วเห็นว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ใช้งบประมาณ 1.8 แสนล้านบาท จนเป็นหนี้ชาวนาอีก 9 แสนล้านบาท 

ต่อมาปี 2555-2556 มีการชุมนุมทางการเมือง ผู้คนออกมาชุมนุมนับหมื่นนับแสนคน ทั้งเรื่องชาวนาไม่ได้เงิน เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในประเทศ หลายครั้งที่อ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปยึดอำนาจจาก ยิ่งลักษณ์ นั้น แท้จริงแล้ว ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งเพราะถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลคดีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ดังนั้น การที่ทหารเข้ามาเพราะต้องการให้ประเทศเดินต่อไปได้หลังจากวิกฤตทางการเมือง จนนำไปสู่การจัดทำประชามติรัฐธรรมนูญปี 2560 และมีบทเฉพาะกาลคัดเลือก ส.ว. มาดำรงตำแหน่งให้ครบ 250 คน

“เห็นด่ากันเสียผู้เสียคน ขนาด ส.ว. นั่งหัวโด่ในสภาฯ นี้ ยังไม่ให้เกียรติ ยังดูหมิ่นศักดิ์ศรี ทั้งที่บางคนไม่มีศักดิ์ศรีเท่า ส.ว. ซ้ำไป นายกฯ ที่ชั่ว ที่โกง ประเทศไทยมีจริง แต่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์” กิตติศักดิ์ กล่าว

ในระหว่างอภิปราย สมคิด เชื้อคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ประท้วงผู้อภิปรายที่พาดพิงพรรคเพื่อไทย และบุคคลภายนอกว่า เรื่องนี้ถ้าใครคิดไม่ออก ก็ด่าโครงการจำนำข้าวตัวเลขที่ออกมาลองเอามาแฉกัน ทุกโครงการของรัฐบาลก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม 

เช่นเดียวกับ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประท้วงผู้อภิปรายว่าได้กล่าวเท็จในห้องประชุม เนื่องจากการอ้างว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ ใช้เงินไป 1.8 แสนล้านบาท ไม่เป็นความจริง พร้อมทักท้วงอย่างมีอารมณ์ว่า เอาข้อมูลมาจากไหน กล่าวหาบุคคลภายนอกโดยไม่มีข้อมูลต้องถอนคำพูด 

ทำให้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวว่า เมื่อวานก็อภิปรายกล่าวหาวุฒิสภา เขาหนักเลย ประเด็นที่เขาชี้แจงถ้าอยู่ในประเด็นที่ถูกกล่าวหา พร้อมปราม พิเชษฐ์ ที่ขึ้นเสียงว่า อย่าโวยวาย ประชาชนกำลังดูอยู่

‘พิเชษฐ์’ประท้วงได้เป็น ส.ว.เพราะม็อบข้าวพิจิตร

จากนั้น พิเชษฐ์ กล่าวว่า “จริงแล้วผมก็ไม่ได้ให้ราคา กิตติศักดิ์ อะไรนี่หรอก เป็น ส.ว. ได้เพราะเป็นม็อบข้าวพิจิตร เสร็จแล้ววัดบางคลาน เขาก็ห้ามเข้าวัด”

กิตติศักดิ์ จึงกล่าวชี้แจงว่า วัดบางคลานไม่ได้ห้ามผมเข้า ผมไปเมื่อไรก็ได้ ไปหาข้อมูลใหม่ และอยากบอกประชาชนว่า วันที่เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้ที่เสนอชิงนายกฯ เพราะไม่มีตัวคุณภาพพอจะแข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้

กมธ.สมาชิกรัฐสมาคมการค้ายุโรปร่วมฟังแก้ รธน.

โดยภายหลังนายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้น พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการสมาชิกรัฐสภาสมาคมการค้าเสรียุโรป (Parliamentary Committee of The European Free Trade Association) จำนวน 18 คนเข้ารับฟังการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในนามรัฐสภายินดีต้อนรับ

จากนั้นวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้ลุกขึ้นหารือกับประธานว่า ขณะนี้มีแขกมาเยี่ยมชมการประชุม ตนน่าจะยืนและปรบมือร่วมกันสักครั้งจะเหมาะสมหรือไม่ ทำให้ พรเพชร ได้ขอให้สมาชิกปรบมือโดยไม่ต้องยืน และกล่าวขอบคุณคณะกรรมาธิการสมาชิกรัฐสมาคมการค้าเสรียุโรปที่ร่วมฟังการประชุมในครั้งนี้