ไม่พบผลการค้นหา
'วิษณุ' บอก 'ทักษิณ' หากกลับไทยต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ชี้ผลดีผลเสียอย่างไรชั่งน้ำหนักดู ยัน กม.นิรโทษกรรมเสร็จไม่ทันสภาสมัยนี้

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสนักการเมือง เสนอนิรโทษกรรมเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ว่า ตนยังไม่เห็นกระแสดังกล่าว เห็นเพียงแต่นำเสนอข่าวกันมานานแล้ว รวมถึง นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ ก็ออกมาพูด ซึ่งเป็นเรื่องที่สภาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เนื่องจากเหลือเวลาน้อย โดยตนได้มีการพูดคุยกับ อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าเหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ก็จะปิดสมัยการประชุมสภา พร้อมกับมองว่าทำกฎหมายเก่าให้แล้วเสร็จดีที่สุด

ทั้งนี้ วิษณุ มองว่า การพูดถึงการนิรโทษกรรมใกล้ช่วงเลือกตั้ง ใครมีอะไรก็พูดทั้งนั้นแหละ เหมือนกับการอภิปรายทั่วไปในสภา ใครมีอะไรก็พูด เพราะพูดแล้วมีประโยชน์กับคนพูด แต่จะเป็นประโยชน์กับคนฟังหรือไม่ก็อีกเรื่อง

เมื่อถามว่า สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันมีความเหมาะสมที่จะนิรโทษกรรมหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องที่จะพูดในปลายสมัยการประชุมสภาที่เหลือเพียง 2-3 ครั้ง ทำอะไรก็ไม่ได้ พิจารณาก็ไม่ได้ องค์ประชุมก็ไม่ครบ แต่สำหรับคราวหน้าไม่เป็นไร 

ส่วนหากพรรคการเมืองนำไปเป็นนโยบายต้องให้กกต.ดูก่อนหรือไม่นั้น วิษณุ กล่าวว่า เช่นเดียวกับพรรคการเมืองเสนอแก้ไขมาตรา 112 บางพรรคก็พูดถึงการขึ้นค่าแรง ก็พูดได้ทั้งนั้น กกต.เขาไม่ดูหรอก เพียงแต่เขาจะตามดูภายหลัง และประชาชนจะตามดูว่าสิ่งที่พูดก่อนการเลือกตั้งเมื่อหลังเป็นรัฐบาลแล้วจะสามารถทำได้หรือไม่

เมื่อถามว่า ในฐานะนักกฎหมายมองว่าช่องทางที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไทยจะเป็นเช่นไรนั้น วิษณุ ตอบติดตลกว่า นั่งเรือบินกลับมา พร้อมกับกล่าวว่า ส่วนจะมาวิธีไหนผมไม่รู้ ต้องถามทักษิณ เพราะ ทักษิณ เป็นฝ่ายอยากกลับ ผมก็เป็นฝ่ายอยากให้ ทักษิณ กลับ ส่วนจะกลับหรือไม่กลับอยู่ที่ ทักษิณ 

เมื่อถามต่อว่า ถ้ากลับตามกระบวนการต้องเป็นอย่างไร วิษณุ ระบุว่า แน่นอน เมื่อกลับต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากเข้ามาแล้วมีผลดีผลเสียอย่างไรก็ต้องชั่งน้ำหนักกันดู ซึ่งกระบวนการยุติธรรมรออยู่

เมื่อถามว่า หาก ทักษิณ เดินทางถึงไทยแล้วเจ้าหน้าที่ สามารถไปรอรับที่สนามบินได้เลยใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมรออยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีวิธีปฏิบัติ แต่อย่าให้ออกจากปากตนพูดเดี๋ยวจะมองเป็นการวางแผนคิดร้ายอะไร และต่อให้ บอส วรยุทธ เดินทางกลับมาก็ต้องทำอย่างเดียวกัน


'วิษณุ' ยันไร้สัญญาณยุบสภา

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่าต้องมีเวลาจัดการเลือกตั้ง 45 วัน หลังกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้ ถึงจะยุบสภาได้นั้น ว่า ได้มีการติดต่อกันอยู่และเตือนกันอยู่ โดยเลขาธิการ กกต. แจ้งว่าเวลานี้การที่จะกำหนดวันเลือกตั้ง คือ 1.รอกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสองฉบับโปรดเกล้าฯลงมา 2. สภาจะสิ้นสุดด้วยเหตุใด ระหว่างยุบสภาหรืออยู่จนครบวาระ เพราะมีตัวแปรที่แตกต่างกัน

3. กกต.กำหนดจัดการแบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่ จาก 350 เขตเป็น 400 เขต รวมถึงจำนวนประชากรก็มีเพิ่มและลดบางจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ กกต.รับฟังความคิดเห็นในเรื่องการแบ่งเขต และเมื่อเสร็จแล้วก็ต้องส่งให้ทางจังหวัดดูว่าในทางปฏิบัติสามารถทำได้ไหมหรือเป็นปัญหาหรือไม่ และค่อยส่งให้พรรคการเมืองดู เพราะฉะนั้นจึงต้องรับฟังความคิดเห็น 

ดังนั้น กกต.ได้ส่งคำเตือนควบคู่กับขอร้อง หากจะตัดสินใจอย่างไรต้องแจ้งให้ กกต. ทราบล่วงหน้าเพื่อจะได้เร่งรัดอะไรบางเรื่องได้ ซึ่งเราก็ได้ประสานกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ยังไม่ลงมาและรัฐบาลก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยุบสภาหรืออยู่จนครบวาระ ซึ่งจะยุบสภาเมื่อไหร่ก็ยังไม่ทราบด้วย

เมื่อถามว่า กกต. ออกมาพูดอย่างนี้ถือเป็นการดักคอไม่ให้ยุบสภาหรือไม่ วิษณุ ระบุว่า อย่าเรียกว่าดักคอเลย แต่เป็นการประสานแจ้งเพราะถ้า กกต.ไม่พูดเราก็ไม่รู้ เดี๋ยวจะเกิดความรักลั่นอะไรขึ้นมา เขา อุตส่าห์บอกมาก็เช่นเดียวกับที่เราอุตส่าห์บอกไปในหลายเรื่องเช่นกัน ฉะนั้นเมื่อมีการพูดคุยกันการเลือกตั้งก็จะมีปัญหาเพราะเราได้นัดกันแล้ว เมื่อกฎหมายลูกลงมาเมื่อไหร่ทาง กกต.และตนก็จะพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯ มีสัญญาณยุบสภาหรือยัง วิษณุ ระบุว่า ไม่มีหรอก หรือจะมีไม่มีต้องถามท่านนายกฯ เพราะตนไม่รู้