วันที่ 8 ก.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคลรมช.กลาโหม ร่วมประชุมด้วย
ที่ประชุมได้รับทราบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า รายงานผลการดำเนินงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วง 20 มิ.ย.-20 ส.ค.64 ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนให้ความร่วมมือด้วยดี รวมถึงความคืบหน้าผลการดำเนินการตามแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และความคืบหน้าแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการสืบสวน สอบสวน คดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของสำนักงานอัยการภาค 9
ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เสนอขอขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยกเว้น อ.ไม้แก่น ,อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.เบตง ,อ.กาบัง จ.ยะลา และอ.สุไหงโก-ลก ,อ.สุคิริน ,อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่ 20 ก.ย.64 และสิ้นสุดใน 19 ธ.ค.64 โดยเป็นการขยายระยะเวลา ครั้งที่ 65 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการดูแล รักษาความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับกองทัพภาคที่ 4 ,กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ให้เข้มงวดงานด้านการข่าว ,การเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายควบคู่สร้างความเข้าใจประชาชน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกนาย ที่เสียสละ ทุ่มเทการทำงาน อย่างเต็มที่ และให้เตรียมแผนการปรับลดพื้นที่ประกาศ ฉุกเฉินเพิ่มเติม เพื่อรองรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมาย ปลอดภัยจากภารกิจ และโควิด-19 กันทุกคน