ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ย้ำถึงข้อสังเกตกรณีที่กรมบัญชีกลาง ออกข้อยกเว้นให้หน่วยงานรัฐใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ในการจัดซื้อจัดจ้างได้ โดยเว้นระเบียบกระทรวงการคลังด้วยว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งอนุญาตให้ดำเนินการไปจนถึงในช่วงที่จะมี การยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินไปแล้ว 90 วัน ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเจตนาที่คงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ 

ชลน่าน เห็นว่าระเบียบที่กรมบัญชีกลางออกข้อกำหนด จะครอบคลุมถึงการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะเงิน 4 แสนล้านบาท ในส่วนของการฟื้นฟู ที่จะเข้าเงื่อนไขในการจัดหาพัสดุ ซึ่งในข้อสงสัยดังกล่าวได้รับคำตอบในชั้นกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้ ซึ่งตัวแทนกรรมาธิการที่มาจากสภาพัฒน์ ได้ยืนยันว่าสามารถนำ ระเบียบดังกล่าวไปใช้กับเงินกู้เพื่อการฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท ได้จริง ดังนั้นจึงเป็นคำตอบว่าเหตุใด ผู้มีอำนาจยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ ทั้งที่ไม่มีเหตุจะต้องควบคุมสถานการณ์โรคหรือผู้ชุมนุมแล้ว โดยเฉพาะเป็นการคงอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้สำหรับการจัดซื้อจัดหาด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง

ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุด้วยว่า ระเบียบที่คณะกรรมการวินิจฉัยกรมบัญชีกลางประกาศระบุว่า ถ้าเป็นงบ 4 แสนล้าน ให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจงได้ทันที ได้เปิดช่องให้สามารถเลือกผู้รับจ้างได้ สามารถชี้ได้ว่าจะเลือกผู้ใด เพราะฉะนั้นหากมีการฮั้วกันเกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่สามารถทำได้โดยง่าย ซึ่งวิธีการในลักษณะเช่นนี้เป็นเรื่องอันตรายและต้องจับตาว่างบฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท จะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบโดยเฉพาะในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตนั้น นำไปใช้จริงหรือไม่ และใช้แล้วเกิดผลเสียหายกับเงินงบประมาณแผ่นดินหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องติดตาม