จากรายงานข้อมูลสภาพการจราจรโดย Inrix ระบุว่า ผู้ขับขี่รถในกรุงลอนดอนใช้เวลาเฉลี่ย 156 ชั่วโมงไปกับการรอรถติดบนท้องถนนระหว่างช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา โดยกรุงลอนดอนได้คว้าสถิติเมืองที่ถนนหนาแน่นที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันตามการจัดอันดับความหนาแน่นของถนนโดย Inrix
นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่าถนน 5 สายที่หนาแน่นที่สุดในสหราชอาณาจักร ล้วนเป็นถนนที่ตัดอยู่ในกรุงลอนดอนทั้งสิ้น ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวได้ทำการเก็บข้อมูลความหนาแน่นของถนนจาก 1,000 เมือง ใน 50 ประเทศ โดยจากการเก็บข้อมูลพบว่า ผู้คนต่างต้องเสียเวลาไปกับการรอรถติดในกรุงลอนดอนจากปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 5% สูงกว่าระดับก่อนช่วงการระบาดโควิด-19
นักวิจัยระบุว่าถนนที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุด คือ ถนนสาย A219 ที่มุ่งหน้าลงใต้จากพื้นที่ฟูแลมไปยังมอร์เดน อันเป็นถนนเส้นหลักในการเดินทางออกจากกรุงลอนดอน โดยผู้ขับรถต่างต้องเสียเวลาเฉลี่ย 47 ชั่วโมงในปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความล่าช้าจากการปิดสะพานแฮมเมอร์สมิธไม่ให้ยานยนต์สัญจรผ่าน
รายงานพบอีกว่าบริสตอลยังเป็นเมืองที่มีการจราจรคับคั่งที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหราชอาณาจักร รองลงมาคือถนนในเมืองแมนเชสเตอร์ เบอร์มิงแฮม และเบลฟาสต์ ในขณะที่จากการเก็บข้อมูลสถิติความหนาแน่นของถนนจากทั่วโลกนั้นพบว่า ชิคาโกในสหรัฐฯ เป็นเมืองที่มีการจราจรคับคั่งมากเป็นอันดับ 2 ของโลกในปีที่แล้ว ตามมาด้วยกรุงปารีสและบอสตัน
บ็อบ พีซู ผู้เขียนรายงานของ Inrex กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นชีวิตประชาชนและการค้ากลับมาเป็นปกติ แต่น่าเสียดายที่เราเห็นความแออัดที่เพิ่มสูงขึ้น หากไม่เกินนั้น จนเข้าใกล้ระดับก่อนเกิดการระบาดใหญ่” พีซูกล่าวเสริมอีกว่า “เราต้องจัดการความแออัด ในขณะที่ต้องมีการปรับปรุงการสัญจร และการเข้าถึงในเมืองต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้เดินทางและผู้อยู่อาศัย”
ที่มา: