ไม่พบผลการค้นหา
กรมการค้าภายในหารือร่วมเอกชนโรงสีผลิตข้าวเหนียวถุง 2-3 แสนถุง ขายปลีกกิโลกรัมละไม่เกิน 35 บาท ผ่านร้านธงฟ้า ในราคาถูก จากราคาท้องตลาดปัจจุบัน 45-50 บาทต่อกก. แก้ปัญหาข้าวเหนียวแพง เผยผู้ค้าข้าว 660 รายใน 57 จังหวัด รายงานสต็อกข้าวเหนียวมีในระบบ 42,096 ตัน คาดปลายเดือน ก.ย. สถานการณ์คลี่คลาย

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนสมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ว่า กรมฯ ได้ขอความร่วมมือให้สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย จัดทำข้าวสารเหนียวร้อยละ 10 บรรจุถุง ยี่ห้อกรมการค้าภายใน ขนาด 2 กิโลกรัม และ 5 กิโลกรัม ปริมาณ 2-3 แสนถุง เพื่อนำออกมาจำหน่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากปัญหาราคาข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้น 

กรมการค้าภายใน-วิชัย-สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย

โดยคาดว่าจะเริ่มวางตลาดภายในช่วง 2 สัปดาห์นี้ พร้อมกับกำหนดราคาจำหน่ายไม่เกิน กิโลกรัมละ 35 บาท ต่ำกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 45-50 บาท หรือข้าวถุง 2 กิโลกรัม ราคาถุงละ 70 บาท และข้าวถุง 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 175 บาท ส่วนช่องทางการจำหน่าย จะกระจายไปยังพื้นที่ที่คาดว่าประชาชนที่บริโภคข้าวเหนียวจะได้รับความเดือดร้อน ผ่านร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นประมาณ 4 หมื่นแห่ง และในห้างสรรพสินค้า 

สำหรับ ข้าวเหนียวที่จะนำมาจำหน่ายในโครงการนี้ คาดว่าจะใช้ข้าวสารปริมาณ 500-1,000 ตัน ซึ่งสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงจะเป็นผู้จัดหาจากโรงสี และตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพข้าว ที่จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมฯ กำหนด โดยต้องเป็นข้าวเหนียวปี 2561/62 เท่านั้น และจะต้องมีคุณภาพดี ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นอับ

ทั้งนี้ เชื่อว่า ปัญหาข้าวเหนียวขาดแคลนจะคลี่คลายลงในปลายเดือน ก.ย. นี้ เนื่องจากผลผลิตทยอยออกสู่ตลาด สำหรับการรายงานปริมาณสต็อกข้าวเหนียวตามประกาศสำนักคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 24 ส.ค. 2562 ล่าสุดมีผู้ยื่นรายงาน แล้วจำนวน 660 รายใน 57 จังหวัด รวมเป็นปริมาณข้าวเหนียว ที่อยู่ในมือผู้ค้าข้าวทั้งระบบกว่า 42,096 ตัน แบ่งเป็นข้าวเปลือกเหนียว 8,178 ตัน ข้าวสารเหนียว 21,984 ตัน และปลายข้าวสารเหนียวอีก 11,934 ตัน

"อาจจะใช้เวลารีเช็กอีก 2 - 3 วัน ถึงจะทราบตัวเลขปริมาณข้าวเหนียวในระบบว่าถูกต้องตามที่มีการแจ้งไว้กับทางกรมฯ ภายในเวลา 16.30 น ของวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา จริงหรือไม่ หากมีการแจ้งปริมาณที่ไม่ตรงกันจะดูว่าผู้ประกอบการจงใจแจ้งข้อมูลเป็นเท็จต่อส่วนราชการหรือไม่ หากจงใจจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายกันต่อไป" นายวิชัย กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :