วันนี้ (9 เมษายน 2568) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหา กรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายนิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 2/2568 ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัด และที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ซึ่งมีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนหลายแห่งทั่วประเทศ โดยการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ 4 ชุด ในการร่วมกันแก้ไขปัญหา มีรายละเอียดที่ต้องรวบรวมมากพอสมควร ภายใต้กรอบระยะเวลาการทำงาน 60 วัน ซึ่งหากไม่จำเป็นไม่ประสงค์ให้มีการขยายระยะเวลาเพิ่มเติม เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าและให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในที่ประชุมได้รับทราบ
1) คำสั่งคณะกรรมการแก้ปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
2) แนวทางการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ ตามคำสั่งคณะกรรมการแก้ปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2548 ทั้ง 4 คณะ
3) มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่อง ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตและยังไม่ได้ยื่นคำขออนุญาตภายในระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
4) มติมหาเถรสมาคม มติที่ 212/2568 ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 เรื่อง การยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
5) ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ ตามคำสั่งคณะกรรมการแก้ปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
6) การรายงานความคืบหน้าในการสำรวจและปรับปรุงข้อมูลวัดและที่พักสงฆ์ที่มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ
1) การเสนอที่ประชุม ค.ก.ว. เพื่อขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้แทนหน่วยงาน และบุคคล เป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการฯ เพิ่มเติม
2) คณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน (คณะที่ 1) ขออนุมัติตั้งคณะทำงานในอนุกรรมการฯ เพื่อทำหน้าที่ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณามอบหมายให้ดำเนินการ
3) การเสนอที่ประชุม ค.ก.ว. เพื่อขอความเห็นชอบในหลักการให้ประธานอนุกรรมการและฝ่ายเลขานุการ ของแต่ละคณะอนุกรรมการฯ เป็นผู้แทนคณะอนุกรรมการฯ นั้นๆ เข้าประชุม ค.ก.ว. ตามที่มติ ค.ก.ว. ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2568 ซึ่งมีมติให้คณะอนุกรรมการจะต้องเข้าร่วมประชุมเพื่อรายงานผลการปฏิบัติงานต่อ ค.ก.ว. ทุกครั้ง
4) การเสนอที่ประชุม ค.ก.ว. เพื่อพิจารณากำหนดวันประชุม ค.ก.ว. ครั้งที่ 3/2568
“จากการรับฟังรายงาน ขอให้คณะอนุกรรมการฯทั้ง 4 ชุด กำหนดเป้าหมายและผลสำเร็จของงาน ซึ่งความสำเร็จของงาน จะอยู่ที่การทราบข้อมูลว่า มีวัดหรือคณะสงฆ์ใดบ้างที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของรัฐ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ให้ครบถ้วน เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของปัญหา เช่น ไม่สามารถขอเอกสารสิทธิ หรือขอใบอนุญาตได้ เมื่อข้อมูลชัดเจนแล้ว จะสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และกำหนดแนวทางในการขอเอกสารสิทธิ ขอใบอนุญาต หรือเสนอขอมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้ภารกิจมีความชัดเจน กระชับ และสามารถบรรลุผลได้อย่างแท้จริง” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว