วันนี้ (27 มิถุนายน 2567) เวลา 12.00 น. ณ มณฑลทหารบกที่ 38 (ค่ายสุริยพงษ์) ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด โดบพลตรี วิทยา แก้วพรม รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้บรรยายสรุปถึงแผนฟื้นฟูบำบัดผู้ติดยาเสพติดของสถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมืองกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูแล้วจำนวน 4,168 คน
จากนั้น นายกฯเศรษฐา ได้พบปะให้กำลังใจผู้บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยได้สอบถามความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตประจำวันของผู้บำบัดว่ามีปัญหา อุปสรรคอะไรหรือไม่ พร้อมกับบอกให้ผู้บำบัดสู้ ขอให้เข้มแข็ง กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและสังคมต่อไป พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้กล่าวชื่นชมศูนย์บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ากระบวนการฟื้นฟูบำบัดประสบความสำเร็จ
ต่อมา เวลา 13.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ รับฟังศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ (ท่าวังผาโมเดล) ณ วัดสุทธาราม ต.ท่าวังผา อ.ท่าวังผา จ.น่าน โดยนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน สรุปผลการปฏิบัติการ x-ray ประชากรพื้นที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ดำเนินการ x-ray แล้ว 22,736 คน คิดเป็นร้อยละ 99.78 พบสารเสพติด จำนวน 173 คน ไม่พบสารเสพติด 22,516 คน โดย 173 คน ที่ตรวจพบสารเสพติดส่งไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัด และมินิธัญญารักษ์ อำเภอนาน้อย ส่วนกลุ่มที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวส่งตัวเข้าไปบำบัดต่อที่มณฑลทหารบก 38 กรณีผู้ค้า เจ้าหน้าที่ได้จับกุม ขยายผล และยึดทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ จังหวัดน่านตั้งเป้าภายในเดือนกันยายน 2567 จะต้องเป็นจังหวัดสีขาว ปลอดจากยาเสพติด
นายกฯเศรษฐา ได้เยี่ยมและให้กำลังใจผู้บำบัดยาเสพติด โดยสอบถามความเป็นอยู่และอาการหลังเข้าร่วมโครงการบำบัดฯ พร้อมขอให้ผู้บำบัดเข้มแข็ง ก้าวผ่านสถานการณ์ไปให้ได้ นอกจากนี้ นายกฯเศรษฐา ยังได้กล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า 'เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่สำคัญของทั่วประเทศ ซึ่งจังหวัดน่านตั้งเป้าหมายไว้จะเป็นจังหวัดสีขาวภายในเดือนกันยายนนี้ ถือว่าเป็นที่พื้นที่นำร่องในการขยายผลไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคน
ไม่ใช่แค่ปราบปรามผู้ค้าอย่างเดียว เรื่องของการยึดทรัพย์ รวมถึงการคืนพี่น้องที่เคยเป็นผู้เสพกลับคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เชื่อว่าการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้ปัญหาหมดจากประเทศไทยเป็นหน้าที่ของทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา'
พร้อมกันนี้นายกฯ ได้รับฟังปัญหารวมถึงเสียงสะท้อนจากประชาชน โดยตัวแทนชาวบ้านขอให้รัฐบาลขยายผลการดำเนินโครงการ พร้อมสนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณสำหรับคำแนะนำ พร้อมเน้นย้ำว่า
'หัวใจของการทำงานคือความร่วมมือ และการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานในพื้นที่ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ดี ขอให้ทำงานร่วมกันต่อไป ร่วมมือร่วมใจแก้ไขปัญหาให้หมดไปจากสังคม'