สำนักข่าว VOA รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แถลงเมื่อวันอาทิตย์ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ตนน่าจะเป็นประธานาธิบดีอเมริกันที่ทำงานหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งท่าทีดังกล่าวเป็นการตอบโต้รายงานข่าวในสื่อสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ใช้เวลาร้อยละ 60 เป็นเวลาส่วนตัว หรือที่เรียกว่า executive time
ตามปกติ executive time หมายถึงเวลาที่ไม่มีการประชุมหรือหมายงานที่ต้องพบปะกับผู้มาเยือน แต่ทรัมป์ยืนยันว่า ในช่วงเวลา executive time นั้น ตนก็ยังทำงานตลอดและไม่ได้พักผ่อนเลย
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเผยแพร่ข้อความในทวิตเตอร์ต่อด้วยว่า "ตอนที่ผมเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดี ประเทศของเราอยู่ในสภาพเละเทะ" และกล่าวว่า อเมริกาอ่อนเเอทางทหาร มีสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น เเละปัญหาประกันสุขภาพและความมั่นคงตามเเนวชายแดน ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำงานหนัก
ทรัมป์ทวีตต่อด้วยว่า "เป็นเรื่องง่ายที่จะได้ข้อมูลการใช้เวลาของตน แต่น่าจะรายงานข่าวนี้ในเชิงบวก มากกว่าเชิงลบ"
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเผยแพร่ภาพตนเองกำลังปรบมือ หลังจากที่โพลสำรวจความคิดเห็น Rasmussen ซึ่งสอบถามความคิดเห็นชาวอเมริกัน 500 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า ร้อยละ 50 ยอมรับผลงานของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นในรอบ 9 เดือน
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวแจ้งว่าจะตรวจสอบให้พบว่าผู้นำตารางงานของประธานาธิบดีทรัมป์มาเปิดเผยกับสื่อเป็นใคร