วันที่ 23 ก.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาร่วมประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่รัฐสภา เพื่อกำชับ ส.ส.ในพรรคให้ร่วมประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 3.185 ล้านบาท โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุมซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที สื่อมวลชนพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านแสดงท่าทีว่าจะโหวตเพื่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2566
โดย พล.อ.ประวิตร ได้ตอบคำถามเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ห่วง และเชื่อว่าการโหวตวาระ 3 จะผ่านไปด้วยดีแน่นอน
ทั้งนี้ อรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เผยว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ แต่ให้กำลังใจ ส.ส.ในการทำหน้าที่วันนี้ และให้ ส.ส.อยู่ร่วมองค์ประชุมจนจบวาระ 3 แต่จะแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น ตนไม่สามารถตอบได้
นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) หลังการประชุม ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในที่ประชุม โดย นิโรธ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับกับ ส.ส. ว่า ขอให้ร่วมประชุมสภาในวันนี้ ซึ่งมีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไม่ว่าจะดึกดื่นเพียงใด เพื่อผลักดันการลงมติในวาระ 2 และวาระ 3 แล้วเสร็จ
“ท่านหัวหน้า (พล.อ.ประวิตร) ก็นอนไม่หลับ เป็นห่วงเรื่องงบประมาณฯ ก็ขอให้ช่วยกันตามคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นผู้แทนของพรรค ให้มาประชุมด้วย แต่ท่านก็ไม่ได้กังวลอะไร วันนี้ก็ยิ้มแย้ม” นิโรธ กล่าว
นิโรธ ยังกล่าวว่า ในฐานะประธานวิปฯ ตนได้ขอความร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคขนาดย่อม ให้ตรึงกำลัง ส.ส.ไว้ เพื่อรักษาองค์ประชุม และผลักดันกฏหมายให้จบ นอกจากนี้ ก็ยังได้คุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งให้คำตอบว่า ยินดีร่วมพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 ให้จบเช่นกัน
ส่วนประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นิโรธ ระบุว่า ถ้าเราเป็นนักกฎหมาย อ่านด้วยความสุจริตใจ ต้องตีความที่มาของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ส่วนคุณสมบัติต้องห้ามเป็นคนละเรื่องกัน พร้อมยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเรื่องกฎหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณา จะไปให้ความเห็นก้าวล่วงก็ไม่ควร แม้แต่สื่อไม่ว่าฟากไหน ตนก็ไม่เห็นด้วยที่มีการโหวต
"ส่วนผู้ชุมนุมทั้งหลาย ผมคิดว่าไม่ควรพูดประเด็นนี้ ผมมองว่าเป็นการกดดันศาล บ้านเมืองและประชาชนจะสับสน”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองต่อ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น นิโรธ ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่มีแพลนบี เดินหน้าอย่างเดียว