วันที่ 24 พ.ค. ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ที่ผ่านมา สะท้อนว่าการรัฐประหารคือความล้มเหลวว่า เข้าใจได้ว่า พิธาอาจจะยังใหม่ทางการเมือง แต่โชคดีที่เป็นหัวหน้าพรรคจึงได้โลดแล่นอยู่ในสภาฯ เพราะถ้าเป็นนักการเมืองที่อยู่ในแวดวงการเมืองมานานย่อมรู้ดีว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาตินั้นบริบทย่อมต่างกัน

ดังนั้น จึงไม่ควรรีบด่วนตีกิน หรือรีบสรุปว่าล้มเหลว หรือว่าจริงๆ แล้ว พิธาก็รู้อยู่แก่ใจดี เพียงแต่ต้องการอาศัยจังหวะนี้เกาะกระแสเรียกคะแนนนิยมให้กับพรรคตัวเอง หากเป็นอย่างนั้นก็ถือว่าน่าผิดหวัง เพราะเป็นการวิเคราะห์ด้วยอารมณ์แทนที่จะใช้หลักการ

“การเลือกตั้งท้องถิ่นและการเลือกตั้งระดับชาตินั้นมีบริบทที่แตกต่างกัน การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้เป็นเรื่องความนิยมของตัวบุคคล ไม่ใช่ของพรรคการเมือง ไม่อย่างนั้น วิโรจน์ คงชนะ และ พิธาคงออกมาตีกินมากกว่านี้ไปแล้ว ซึ่งการตัดสินใจของประชาชนครั้งนี้มีหลายเหตุผลด้วยกัน ดังนั้นการเหมารวมว่าล้มเหลวจึงไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ในหลักการผมไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารอยู่แล้ว แต่เมื่อมีสถานการณ์เผาบ้านเผาเมือง คนไทยจะเข่นฆ่ากันเอง เกิดม็อบชนม็อบผมก็เข้าใจ ไม่อยากให้ พิธาคิดแทนประชาชนส่วนใหญ่ อย่าเอาความคิดตัวเองเป็นตัวตั้งแล้วบอกว่านี่คือความคิดของประชาชนทั้งประเทศ เพราะมันไม่จริง ทั้งนี้ บ้านเมืองบอบช้ำมามากแล้ว และเราก็ก้าวผ่านความขัดแย้งของคนในชาติมาได้นานกว่า 8 ปีแล้ว อย่าพยายามเดินกลับไปสู่จุดนั้นอีก หากรักประเทศและประชาชนจากใจจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ลมปาก” ธนกร กล่าว

ส่วนกรณีที่อ้างว่า ผลการเลือกตั้งยังสะท้อนว่าประชาชนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมด้วยนั้น ธนกร กล่าวว่า ต้องแยกให้ออกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายกฯ แม้จะอ้างว่าคนกรุงเทพฯ เลือก ส.ก.จากพรรคฝ่ายค้านมากกว่าของพรรคพลังประชารัฐก็ตาม หากจะให้เกี่ยวก็ควรมองย้อนไปถึงการลงพื้นที่ของนายกฯ ในภาคต่างๆ ที่ยังคงมีประชาชนมาให้กำลังใจมากมาย และเรียกร้องให้รัฐบาลสานต่อประชาชนรู้ดีว่านายกฯ จริงใจเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยสะท้อนผ่านเสียงตอบรับนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลได้เป็นอย่างดีนโยบายต่างๆ ที่โดนใจคนรากหญ้าต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆ จนประเทศกลับสู่ความสงบอีกครั้ง และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาโดยตลอด โดยไม่สนเกมการเมือง ดังนั้น เชื่อว่าประชาชนรู้ดีว่านายกฯ จริงใจเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยสะท้อนผ่านเสียงตอบรับนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี