เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า ใช่แล้วที่สถานการณ์โควิดเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ผลกระทบต่อประเทศนั้นๆ มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ฝีมือของการบริหาร ทั้งนี้ รัฐบาลไทยตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง ส่งผลให้เกิดการสูญเสีย มากกว่าที่ประเทศไทยสูญเสียจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามมหาเอเชียบูรพา ฯลฯ
มิ่งขวัญ กล่าวว่า ในด้านงบประมาณ ปี 2563 ประเทศไทยจัดทำงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ปี 2564 จำนวน 3.28 ล้านล้านบาท ปี 2565 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2563-2564 มีการกู้เงินรวม 1.5 ล้านล้านบาท เริ่มจากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท แต่มีการใช้จ่ายผิดพลาด ใช้เพื่อการแพทย์และสาธารณสุขเพียง 45,000 ล้าน ที่เหลือ 955,000 ล้านบาท เป็นการเยียวยาและพื้นฟู
มิ่งขวัญ อภิปรายว่า สำหรับงบประมาณจากการกู้เงินด้านการแพทย์และสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท ปัจจุบันเบิกจ่ายได้จริงเพียง 25.83% ถือว่าช้ามาก จึงไม่แปลกที่คนจะตายจำนวนมาก และเจ็บป่วยเป็นล้านคน ถือได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพในการใช้เงิน ส่วนเงินกู้ในปี 2564 อีก 5 แสนล้านบาทนั้น แบ่งเป็นด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพียง 30,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการเยียวยาและฟื้นฟู 470,000 ล้านบาท ทั้งที่ควรใช้จ่ายด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้ถึง 1 แสนล้านบาท
มิ่งขวัญ กล่าวว่า รัฐบาลได้กู้เงินมากับใช้กับแอปเป๋าตัง ขอตั้งฉายาว่า “รัฐบาลแอปเป๋าตัง” ซึ่งเป็นการเยียวยาที่มีจุดอ่อน ไม่ทราบว่ามีการใช้จ่ายอย่างไร ตรวจสอบไม่ได้ และยังเอื้อรายใหญ่ในช่วงต้น
“ความผิดพลาดด้านวัคซีน รัฐบาลบังคับให้คนไทยอายุ 18-60 ปี ประมาณ 40 ล้านคน ให้ฉีดวัคซีนซิโนแวค โดยไม่มีทางเลือกอื่น ทั้งที่ซิโนแวคเป็นของเอกชนจีน ขณะที่ประเทศจีนได้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้ประชาชนชาวจีนเกือบทั้งประเทศ จึงมีความสงสัยในความไม่ชอบมาพากล
นอกจากนี้ งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ยังชี้ว่า แม้ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบโดส ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้ออัลฟ่า เดลต้า และเบต้าได้ และหลายคนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ก็ติดเชื้อโควิด แต่รัฐบาลก็ยังดันทุรังจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลตัดสินใจซื้อวัคซีนซิโนแวคท่ามกลางเสียงทักท้วงจากประชาชน แม้แต่แพทย์โรงพยาบาลรามาฯ 604 คน ยังร่วมลงชื่อแสดงจุดยืนให้มีการจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ก็ยังไม่เป็นผล”
หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า รัฐบาลยังตัดสินใจผิดพลาดในการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ซึ่งมีผู้นำกว่า 172 ประเทศเข้าร่วม ถามว่าผู้นำ 172 ประเทศเหล่านี้ ไม่ฉลาดอย่างนั้นหรือ ขณะที่ข้อมูลจากสื่อบางสำนักระบุว่า 200 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมโคแวกซ์แล้ว 192 ประเทศ ส่วน 7 ประเทศที่ไม่เข้าร่วมคือ คิวบา เกาหลีเหนือ เบลารุส อีริเตรีย บุรุนดี เติร์กเมนิสถาน และไทย ส่วนที่มีการฉีดวัคซีนไขว้นั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาล ที่จัดซื้อวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร
มิ่งขวัญ ระบุ ส่วนชุดตรวจ ATK ที่ประเทศอังกฤษ มีเจ้าหน้าที่ยืนแจกเหมือนการแจกใบปลิว ขณะที่ประเทศไทยมีการวางขายชุดละ 360 บาท ส่วนการจัดหาของรัฐบาลนั้น ไม่มีความโปร่งใส โดยมีการจัดซื้อ 8.5 ล้านชุด ชุดละ 70 บาท จนภายหลังชมรมแพทย์ชนบท ออกมาเปิดเผยราคาจริงว่าอยู่ที่ 35 บาท จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ สั่งซื้อชุดตรวจที่ผ่านการรับรองจาก WHO เท่านั้น แต่แล้วสุดท้ายกลับแก้ไขข้อสั่งการให้จัดซื้อกับบริษัทจากจีนเจ้าเดิม โดยขณะนี้มีการยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบ จึงต้องติดตามต่อไป