ทางการสหรัฐฯ กล่าวถึงคำตัดสินที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำของบริติชอเมริกันโทแบคโคในเกาหลีเหนือ ระหว่างปี 2550-2560 โดย แจ็ค โบว์ลส์ หัวหน้าของบริติชอเมริกันโทแบคโค กล่าวว่า "เราเสียใจอย่างยิ่งต่อการประพฤติมิชอบ"
ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง จากการที่เกาหลีเหนือมีกิจกรรมทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ อันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
คำตัดสินในทางคดีที่มีโทษปรับเงินในวันอังคารที่ผ่านมา (25 เม.ย.) เกิดขึ้นระหว่างบริติชอเมริกันโทแบคโค และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
บริติชอเมริกันโทแบคโค เป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติด้านยาสูบที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งใน 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยพวกเขาเป็นเจ้าของแบรนด์บุหรี่รายใหญ่ ได้แก่ Lucky Strike, Dunhill และ Pall Mall
ในแถลงการณ์ของบริติชอเมริกันโทแบคโคระบุว่า บริษัทได้ทำสัญญา "เลื่อนข้อตกลงการฟ้องร้องกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และข้อตกลงการยุติคดีแพ่งกับสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และบริษัทสาขาบริติชอเมริกันโทแบคโคทางอ้อมในสิงคโปร์ ได้ทำข้อตกลงกับสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ"
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า บริติชอเมริกันโทแบคโคได้สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงสถาบันการเงินเพื่อให้ดำเนินการธุรกรรมในนามของหน่วยงานในเกาหลีเหนือ
คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นคนสูบบุหรี่จัด โดยปีที่แล้ว สหรัฐฯ พยายามขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ห้ามการส่งออกยาสูบไปยังเกาหลีเหนือ แต่รัสเซียและจีนได้ลงมติคัดค้าน
ในการบรรยายสรุปเมื่อวันอังคาร แมทธิว โอลเซน ผู้ช่วยอัยการสูงสุดกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า คำตัดสินในครั้งนี้เป็น "จุดสิ้นสุดของการสอบสวนที่ยาวนาน" พร้อมระบุว่าคำตัดสินในครั้งนี้เป็น "การลงโทษเกาหลีเหนือครั้งใหญ่ที่สุดครั้งเดียว ในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม"
โอลเซนกล่าวว่า บริติชอเมริกันโทแบคโคมีส่วนร่วมใน "โครงการที่ซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และขายผลิตภัณฑ์ยาสูบให้กับเกาหลีเหนือ" ผ่านทางบริษัทในเครือ “ระหว่างปี 2550 ถึง 2560 บริษัทบุคคลที่สามเหล่านี้ ขายผลิตภัณฑ์ยาสูบให้กับเกาหลีเหนือ และได้รับเงินไปประมาณ 428 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.47 หมื่นล้านบาท)”
นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินคดีทางอาญาต่อ ซิมฮยอนซอบ นายธนาคารชาวเกาหลีเหนือ วัย 39 ปี และ ฉินกัวหมิง ผู้อำนวยความสะดวกชาวจีนวัย 60 ปี และฮันลินลิน วัย 41 ปี ในข้อหาอำนวยความสะดวกในการขายยาสูบให้กับเกาหลีเหนือ โดยมีการตั้งเงินรางวัลนำจับ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 171 ล้านบาท) สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมหรือการลงโทษซิม และเงินรางวัลนำจับ 500,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 17.1 ล้านบาท) สำหรับผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน
พวกเขายังถูกกล่าวหาว่าซื้อใบยาสูบให้กับผู้ผลิตบุหรี่ของรัฐเกาหลีเหนือ และปลอมแปลงเอกสารเพื่อหลอกให้ธนาคารสหรัฐฯ ดำเนินการธุรกรรมมูลค่า 74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.54 พันล้านบาท) ทั้งนี้ ผู้ผลิตบุหรี่ในเกาหลีเหนือ ยังรวมถึงบริษัทหนึ่งที่มีกองทัพเป็นเจ้าของ และพวกเขาได้ทำเงินไปประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) จากข้อตกลงเหล่านี้
ในช่วงหลายปีมานี้ เกาหลีเหนือเผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างหนักหลายครั้ง เพื่อตอบโต้การยิงขีปนาวุธและการทดสอบนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ไม่ได้ช่วยขัดขวางให้คิมหยุดหรือล้มเลิกการพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศต่อไป
ที่มา: