เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความมีเนื้อหาโดยสรุปว่า มีความเป็นห่วงกรณีที่หุ้นบริษัทหนึ่ง มูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ 1 ล้านล้านบาท มีราคาผันผวนมากกว่า 15% ภายในวันเดียว ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในหุ้นขนาดใหญ่อย่างตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับการปั่นหุ้นในไทยที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการกำหนดจำนวนขั้นต่ำของผู้ถือหุ้นรายย่อย ทำให้มีจำนวนหุ้นในตลาดเหลือน้อย เมื่อมีจำนวนน้อย ราคาหุ้นจึงสูงกว่าความเป็นจริง แต่บทลงโทษการปั่นหุ้นในไทยไม่ร้ายแรง ใช้เวลานานในการดำเนินคดี ทำให้บางบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำกว่าเกณฑ์มาก จนนักลงทุนบางกลุ่มสามารถปั่นหุ้น หรือต้อนหุ้นเข้ามุม ทำกำไรมหาศาลจากมูลค่าหุ้นที่พุ่งขึ้นเกินความเป็นจริงในระยะเวลาอันสั้นได้
ปัจจุบันมีบางกรณีที่เป็นบริษัทขนาดกลาง มีมูลค่าตลาดเทียบเท่ากับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น บริษัทขนาด 1 ใน 6 ของ ปตท.มีมูลค่าตลาดมากกว่า ปตท. ซึ่งสร้างความเสียหายทางการเงินให้กับนักลงทุนรายย่อย และทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดความมั่นใจในตลาดทุนไทยได้
หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะเข้ามาส่งเสริมตลาดทุนไทย เพื่อปราบปรามพฤติกรรมการกระทำผิด เพิ่มความเข้มงวดกับบริษัทที่มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำกว่าเกณฑ์ สนับสนุนหุ้นที่มีธรรมาภิบาลอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การออกใบรับรองจากตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจว่าตลาดทุนของไทยจะมีความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อรวมกับนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย เช่น นโยบายออกไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศ นโยบายสร้างศูนย์กลางฟินเทค (Fintech) นโยบายเขตธุรกิจใหม่ มั่นใจว่าจะทำให้ประเทศไทยผงาดขึ้นมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคได้อย่างภาคภูมิอีกครั้ง