นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานมูลนิธิพัฒนาเยาวสตรีภาคเหนือ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมด้วย ดร.เทอดธนัท สีเขียว ประธานชมรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งประเทศไทย(ชปภ.) และนางวิศัลย์สิริ ตันตระกูล ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.) จัดกิจกรรมสอนเพาะถั่วงอกไว้ทำอาหาร และมอบข้าวสารอาหารแห้งให้ครอบครัวยากไร้ตกงานด้วยพิษไวรัสโควิด19 และแรงงานต่างด้าวหลายประเทศที่ตกงานขาดรายได้ ณ ศูนย์สุขภาพชุมชนประสิทธิชัย รามอินทรา69 เขตคันนายาว กทม.
นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรณีของกลุ่มผู้ยากไร้และกลุ่มแรงงานต่างชาติที่ต้องตกงานทำให้ขาดรายได้หลายคน แม้แต่ข้าวสารแทบไม่มีกรอกหม้อ ทางมูลนิธิฯพร้อมด้วยคณะ มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ จึงเข้ามาช่วยเหลือ มอบข้าวสารอาหารแห้งให้ครอบครัวยากไร้และแรงงานต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อยู่ในหลายพื้นที่ขณะนี้
นอกจากนี้นางลดาวัลลิ์ ยังได้จัดกิจกรรม "สาธิตวิธีการเพาะถั่วงอก" พร้อมทั้งมอบเมล็ดถั่วเขียวพร้อมอุปกรณ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้นำไปใช้เพาะถั่วงอกไว้เป็นอาหารเองได้ที่บ้าน และยังสามารถเพาะถั่วงอกขายเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ไม่มีอาหารยังชีพและมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
นางลดาวัลลิ์ได้เสนอแนะไปยังรัฐบาลให้ตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19" ในทุกตำบล โดยบูรณาการร่วมกันทั้ง องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน กรรมการชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เพื่อทำหน้าที่ 4 ด้าน คือ 1. สำรวจรวบรวมข้อมูลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในแต่ล่ะพื้นที่ที่มีปัญหาความเดือดร้อนแตกต่างกันไป
2. ตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 และโรคระบาดอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา 3. จัดตั้ง "คลังอาหาร หรือธนาคารอาหาร" (Food bank) โดยเป็นศูนย์ที่รับบริจาคจากคนที่มีอาหารเหลือกินเหลือใช้ ร้านอาหารที่ขายอาหารไม่หมด หรือแม้แต่พวกร้านค้าปลีก ค้าย่อย ที่สั่งของมาขายแต่ขายไม่หมด ให้รู้ช่องทางในการบริจาคเงินสำหรับซื้ออาหาร หรือบริจาคอาหารโดยตรงไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรืออาหารแห้ง จากนั้นทางศูนย์ก็รวบรวมเอาไปแจกจ่ายให้คนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีข้าวปลาอาหารรับประทาน
และ 4. เป็นศูนย์กลางประสานความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรการกุศลต่างๆ ไม่ว่าะเป็นเหล่ากาชาดจังหวัด มูลนิธิ สมาคม ชมรมต่างๆ เพื่อจัดระบบการดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง จะเป็นการสร้างชุมชนคุณธรรมเมตตาธรรมและส่งเสริมความมีน้ำใจระหว่างคนไทยด้วยกันและต่อแรงงานต่างชาติที่กำลังทุกข์ยาก จะช่วยลดภาระของรัฐบาล และจะช่วยป้องกันความเครียด ซึมเศร้า คิดสั้นได้เป็นอย่างดี