นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วยเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ กว่า 30 คนเดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มข้อกล่าวหากับกลุ่มวัยรุ่นอันธพาลแก๊งงานบวช ฐานความผิดดื่มสุราในวัดตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมี พ.ต.อ.ธีระวุฒิ กิ่งวรรณ นายตำรวจหัวหน้าเวรอำนวยการประจำวันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ทางเครือข่ายเห็นว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่อุกอาจและผิดกฎหมายรวมทั้งละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นอย่างร้ายแรงทางเครือข่ายจึงมีข้อเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังนี้
1. ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดกฎหมายเดินเร็วเนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจมีให้เป็นเยี่ยงอย่างโดยจะขอให้ศาลลงโทษสถานหนักรวมถึงขอให้กำหนดมาตรการคุ้มครองผู้เสียหายและพยานในคดีนี้ด้วย
2. ขอให้ตรวจสอบการดื่มสุราในบริเวณวัดเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณวัดซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 31
3. ขอร้องเรียนไปยังกรมกิจการเด็กและเยาวชนเลี้ยงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจนักเรียนนะครอบครัวผู้ที่ถูกกระทำเป็นการด่วน
4. ขอให้ประชาชนจัดงานบวช งานบุญ งดการมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ด้านนายวันชัย พูลช่วย ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กล่าวว่า แปลกใจว่าทำไมไม่มีการแจ้งข้อหาการดื่มสุราในสถานที่ห้ามตาม ทั้งๆที่มีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ภาพวงจรปิด รวมไปถึงพยานบุคคลในพื้นที่ ที่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีการกินดื่มกันในวัดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจละเลยประเด็นนี้
รอง ผบ.ตร.เผยเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 3 แก๊งงานบวชวัดสิงห์
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 คน ร่วมกันเข้ามาทำร้ายประชาชน ภายในบริเวณโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ระหว่างการสอบ GAT-PAT จากที่มีการออกหมายจับและดำเนินคดีไปแล้ว 24 คน โดยมีการแจ้งความเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการ ความผิดต่อเสรีภาพ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในบริเวณวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา
จากที่ก่อนหน้านี้ แจ้งความไปแล้ว 4 ข้อหา ฐานร่วมกันบุกรุก ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และอนาจารบุคคลอายุกว่า 15 ปี ขณะที่ การเข้าตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ยังไม่พบเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือความผิดอื่นเพิ่มเติม รวมทั้ง ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ส่วนการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาส่วนใหญ่ ให้การสอดคล้องกับการกระทำความผิด
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ จัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัย พร้อมให้ความมั่นใจกับผู้ปกครอง รวมทั้ง จัดกำลังดูแลพยาน ผู้เสียหายด้วย นอกจากนี้ ให้วางมาตรการดูแลโรงเรียน หรือสถานที่จัดสอบต่าง ๆ ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อีก รวมทั้ง ประสานวัดทุกแห่ง ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อย่างเคร่งครัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง