หมอชิต 2 ผู้โดยสารแน่น-แรงงานเพื่อนบ้านหวั่นกลับไม่ทันด่านชายแดนปิด

แรงงานไทย-ประเทศเพื่อนบ้านขนของกลับบ้าน ทำสถานีขนส่งหมอชิต 2 ทะลัก ผู้โดยสารแน่นเต็มพื้นที่ หลัง กทม.สั่งปิดจุดสำคัญ 22 แห่ง รวมทั้งมีการประกาศปิดด่านถาวรในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) บสข.ขอสนับสนุนเครื่องวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย

นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชน ภายหลังที่กรุงเทพมหานครได้ประกาศปิดจุดสำคัญ ย่านการค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยประกาศเตรียมปิดด่านพรมแดนถาวร 18 จุด ในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค. 63) ว่า ขณะนี้มีผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาประมาณ 80,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติ ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา

อย่างไรก็ตาม บขส. ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเดินทาง และเพิ่มมาตราการในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับผู้โดยสารที่เป็นแรงงานต่างชาติ และขอให้ผู้โดยสารที่เดินทางเตรียมความพร้อมในการเดินทางให้ดี สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างขณะใช้บริการในสถานีขนส่ง รวมทั้งเร่งจัดหารถเสริม เพื่อระบายผู้โดยสารออกไป ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ การเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาจะเข้าสู่ภาวะปกติ

พร้อมกันนี้ บขส.ขอสนับสนุนเครื่องวัดอุณหภูมิ สำหรับตรวจคัดกรองผู้โดยสาร และขอสนับสนุนแอลกอฮอล์เจล สำหรับติดตั้งในสถานีขนส่ง เพื่อให้เพียงพอรองรับผู้โดยสารที่ทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ขอยืนยันว่า บขส.ได้พยายามบริหารจัดการอย่างเต็มความสามารถ ภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด ซึ่ง บขส.ไม่สามารถสั่งหยุดความต้องการการเดินทางของประชาชนได้ แต่หากรัฐบาลมีนโยบายประกาศหยุดการเดินรถ บขส.ก็พร้อมจะปฏิบัติตามนโยบายทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอสนับสนุนพื้นที่ เพื่อให้แรงงานต่างชาติที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ มีจุดพักเมื่อถึงสถานีปลายทาง

อย่างไรก็ดี ขอความร่วมมือประชาชนหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ให้งดการเดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารฯ ด้วย

พร้อมกับคาดการณ์ว่า จะสามารถระบายผู้โดยสารของวันนี้ออกจากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ หมดภายในคืนนี้ และพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) น่าจะมีการเดินทางลดลงจากวันนี้แล้ว

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า สั่งด่านผ่อนปรนตามชายแดนทั้ง 51 แห่ง ปิดทั้งหมดแล้ว ส่วนจุดผ่านแดนถาวร ได้พิจารณาตามความจำเป็น ซึ่งให้เหลือจังหวัดละ 1 แห่ง ส่วนจังหวัดเชียงรายที่ติดพรมแดนระหว่าง 3 ประเทศจะยกให้เป็นกรณีพิเศษ แต่หากมีความจำเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถสั่งการให้ปิดจุดผ่านแดนถาวรได้

ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยงและมีการแพร่ระบาดจะต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มข้นและกับตัว 14 วัน โดยได้แจ้งกับทุกจังหวัดให้ดำเนินการอย่างรัดกุมด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :