ไบเดนได้กล่าวในกรุงวอร์ซอเพื่อส่งข้อความไปทั่วทั้งยุโรปว่า โลกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่น “เพื่อการต่อสู่ในอีกระยะยาวข้างหน้า” นอกจากนี้ ไบเดนได้เรียกร้องไปยังคนรอบตัวของปูตินว่า “เห็นแก่พระเจ้าเถอะ ชายคนนี้จะอยู่ในอำนาจต่อไปไม่ได้” คำพูดดังกล่าวเป็นคำพูดรุนแรงที่สุดที่ไบเดนใช้ต่อประธานาธิบดีรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน
หลังจากคำแถลงของไบเดน ทำเนียบของสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงว่า ความหมายของคำพูดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หมายความถึงการที่ปูตินจะต้องสละอำนาจทั้งหมดของตนเองเหนือดินแดนของยูเครน และภูมิภาคอื่นๆ และสหรัฐฯ ไม่ได้มีความพยายามในการเปลี่ยนระบอบการเมืองของรัสเซีย ทั้งนี้ ทางการรัสเซียได้ออกมาวิจารณ์คำพูดของไบเดนพร้อมระบุว่า ปูตินได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมาจากประชาชนชาวรัสเซียตามครรลอง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้ระบุโดยตรงไปยังประธานาธิบดีรัสเซียว่า “อย่าแม้แต่จะคิดที่จะก้าวเข้ามายังดินแดน NATO เพียงแค่นิ้วเดียว” ไบเดนได้กล่าวบริเวณหน้าทำเนียบประธานาธิบดีโปแลนด์อีกว่า “ไม่มีเหตุผลหรือการยั่วยุให้รัสเซียเลือกทำสงคราม” เพื่อชี้ว่าการทำสงครามในครั้งนี้ของรัสเซียขาดความชอบธรรมอย่างรุนแรง
“มันเป็นตัวอย่างหนึ่งของความกระหายที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ โดยการใช้กำลังผ่านความอันดุร้ายป่าเถื่อนและการบิดเบือนเพื่อสนองตัณหาในอำนาจและการครอบครองอันเด็ดขาด ไม่น้อยไปกว่าการท้าทายต่อระเบียบระหว่างประเทศตามกฎระเบียบที่ถูกสถาปนาขึ้นตั้งแต่ครั้งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง” ไบเดนวิจารณ์ปูติน
ชั่วโมงก่อนหน้าการกล่าวปาฐกถาของไบเดนหน้าทำเนียบประธานาธิบดีโปแลนด์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน นับเป็นการหารือกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปูตินประกาศ “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อเข้ารุกรานยูเครน
หลังจากการกล่าวแถลงของไบเดนได้ไม่นาน กองทัพรัสเซียได้ยิงจรวดถล่มโรงงานในเมืองลวิฟของยูเครน ห่างออกไปจากจุดที่ไบเดนกล่าวคำแถลงโจมตีปูตินเพียงแค่ 400 กิโลเมตร ส่งผลให้มีประชาชนชาวยูเครนอย่างน้อย 5 รายได้รับบาดเจ็บ “ในการยิงระเบิดของวันนี้เป็นการที่ผู้รุกรานส่งคำทักทายมายังประธานาธิบดีไบเดน ผู้ที่กำลังอยู่ในโปแลนด์” แอนดรีย์ ซาโดวีย์ นายกเทศมนตรีของเมืองลวิฟระบุกับทาง Reuters
ไบเดนยังได้ย้ำในการแถลงของตนว่า สงครามในครั้งนี้คือสงครามเพื่อเสรีภาพ ระหว่างประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม ระหว่างอิสรภาพกับการถูกกดขี่ ระหว่างระเบียบภายใต้กฎเกณฑ์กับการปกครองโดยความป่าเถื่อน “ศึกนี้จะไม่ชนะภายในระยะเวลาเพียงวันหรือเดือน เราจะต้องเสริมความแข็งแกร่งของเราเพื่อการต่อสู้ในอีกระยะยาวไกล” ไบเดนย้ำ
ที่มา: