วันที่ 2 เม.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อมรับมือพรรคฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายนนี้ ว่า ตนบอกว่ากันอภิปรายเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล เพราะไม่ได้มีการลงมติ ว่าจะไว้วางใจหรือไม่ แต่เป็นเวลาให้รัฐบาลตอบคำถามหลังจากบริหารประเทศได้ 6 เดือน ซึ่งอาจจะมีบางส่วนที่เรายังมองไม่รอบด้านหรือซุกไว้ใต้พรม จึงเป็นเรื่องที่ดี
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม นายกรัฐมนตรีได้ประกาศ จะสร้างความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม ให้มีประสิทธิภาพโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แต่อาจจะมีบางอย่างที่เป็นช่วงเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือบางอย่างเป็นความคาดหวังของประชาชน จึงเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับสังคม พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีความหนักใจแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้เตรียม สส.ช่วยดูเรื่องข้อบังคับในสภาฯหรือไม่ เนื่องจากอาจเกิดความวุ่นวายประท้วงเกิดขึ้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ในความเป็นจริงน่าจะปล่อยให้รัฐมนตรีเขาตอบ เพียงแต่อย่าไปพาดพิงในส่วนที่ผิดข้อบังคับ ก็อาจจะเป็นสิทธิ์ของ สส. แต่ถ้าเป็นการถาม ก็ควรจะเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีได้ตอบ ซึ่งเท่าที่ทราบทุกกระทรวงพร้อมชี้แจง
เมื่อถามว่า การไม่ให้เอ่ยชื่อถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในสภาฯ เกิดความวุ่นวายหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตนยังไม่ได้ยิน แต่มีข้อบังคับการประชุมในสภาฯอยู่แล้ว มีการเอ่ยถึงก็ควรจะเอ่ยแบบเลี่ยงคำโดยไม่ผิดข้อบังคับ ซึ่งรู้เจตนาอยู่แล้ว และตนมองว่าฝ่ายค้านยุคนี้พัฒนาไปเยอะ และเชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร จะสามารถควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมกับมองว่าการอภิปรายในครั้งนี้ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชน เพราะตอนนี้ประชาชนเราตื่นรู้ และคนที่เป็นรัฐบาล ในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ประชาชนอยู่รับใช้รัฐบาล แต่รัฐบาลต้องรับใช้ประชาชน
เมื่อถามว่า ตอนนี้เหมือนกระบวนการยุติธรรมในบ้านเราเสื่อมถอยลงไป พ.ต.อ.ทวี มองว่า ไม่ได้เป็นห่วงอะไร วันนี้เรากำลังจะแก้ไขกฎหมาย เพราะที่ผ่านมามีกระบวนการยุติธรรมย่อยเยอะและต่างคนต่างอยู่ จึงต้องเชิญองค์กรต่างๆมาพูดคุยกัน เพื่อเป้าประสงค์เดียวคือความยุติธรรมของประชาชน นี่คือสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะแก้ไข
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่อง 2 มาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เราต้องมีมาตรฐานเดียว คือมาตรฐานทางกฎหมาย ถ้ามันไม่ดีก็ต้องไปแก้กฎหมาย พร้อมกับระบุว่ารัฐบาลนี้ยังไม่เคยแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขณะนี้พยายามทำอยู่ อะไรที่ประชาชนเสียโอกาส หรือเลือกปฏิบัติ ก็จะแก้ไขให้มันมีมาตรฐาน ก่อนจะย้ำว่ากฎหมายต้องปกป้องคุ้มครองคนทุกคน หากใครไปสั่งการเกินกฎหมาย ผู้นั้นก็ต้องถูกดำเนินคดี
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ ทักษิณ บ้างหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่า ได้พบกันที่งานพระราชทานเพลิงศพ บิดาของ จตุรงค์ ฉายแสง ซึ่งตนไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าในทักษิณจะเดินทางไปด้วย เพียงแต่ไปพบกันที่งานเท่านั้น และไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
เมื่อถามต่อว่า อาการป่วยของ ทักษิณ เหมือนดีขึ้นซึ่งสวนทาง ที่กระทรวงยุติธรรมการันตีถึงอาการป่วย พ.ต.อ.ทวี ปฏิเสธตอบพร้อมกับระบุว่า ไม่ได้ถาม แต่เรื่องการป่วย เรายึดความเห็นของแพทย์ และเรื่องของทักษิณเราใช้ความเห็นของคณะแพทย์ ก่อนย้ำในช่วงท้ายว่ารัฐบาลเปิดกว้างในการรับฟังหากต้องแก้ไขกฎหมาย