วันนี้ (1 เม.ย.) ซึ่งตรงกับวันเกณฑ์ทหารประจำปี เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
🔴 ประกาศจุดยืน ’เกณฑ์ทหารต้องสมัครใจ’
“การเกณฑ์ทหารวันแรกได้เริ่มขึ้นแล้วครับ ผมจึงอยากใช้โอกาสนี้ในการย้ำจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่า การเกณฑ์ทหารต้องเป็นระบบสมัครใจ นี่ไม่ใช่การบอกว่าทหารเกณฑ์ไม่จำเป็น แต่ในทางกลับกัน จะยิ่งเป็นการทำให้สถาบันทหารมีความน่าเคารพนับถือ และมีคุณค่ามากขึ้น
"รวมทั้งเรายังจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้สถาบันทหารเป็นวิทยาลัยเพื่อการเรียนรู้ และเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ที่สมัครใจเข้ามา เพื่อที่เมื่อกลับออกไปก็จะมีวิชาชีพ มีความรู้ติดตัวที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดชีวิต และขับเคลื่อนสังคมต่อไปได้ครับ"
"งบประมาณที่ต้องใช้สำหรับการบังคับเกณฑ์ทหารก็จะลดน้อยลง สามารถนำไปพัฒนา ปรับปรุงส่วนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการของทหารเอง การฝึกอบรม หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ"
"เราต้องอยากทำให้สถาบันทหาร เป็นสถาบันที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และน่ายกย่องครับ สมกับที่เป็นรั้วของชาติที่แข็งแกร่งครับ”
🔴 งัดหลักฐานโต้ชาวเน็ต ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เพราะไม่อยากให้ลูกตัวเองมาเป็น
หลังเศรษฐาเผยแพร่จุดยืนนี้ออกไปนั้น พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยมีชาวทวิตเตอร์รายหนึ่ง เข้ามาตั้งคำถามกับเขาว่า "เพราะลูกไม่กลับมาเกณทหาร เลยคิดจะแก้กฎหมายเพื่อให้ลูกไม่ผิดรึป่าว 555 ไม่ต่างอะไรกับที่พรรคพยายามเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมมาตลอด" ทำให้นำหลักฐาน ซึ่งเป็นใบ สด.9 มายืนยันว่าลูกชายของเขาทั้ง 2 คน ได้ผ่านการเกณฑ์ทหารมาเป็นที่เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมาย
🔴 เพื่อไทย เคยเสนอในการเลือกตั้ง ปี 2562
ทั้งนี้ สำหรับจุดยืนการเกณฑ์ทหารของพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นนโยที่มีมาตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้งปี 2562 เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ และพรรคเสรีรวมไทย ที่เสนอนโยบายในลักษณะเดียว
โดยเมื่อปี 2562 นพดล ปัทมะ คณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ในเวลานั้น เคยกล่าวถึงนโยบายปฏิรูปกองทัพ และตัดงบประมาณประจำปี บนเวทีดีเบทของ PPTV ในเวลานั้นระบุ มองว่าทุกหน่วยงานควรจะได้รับการพัฒนา การปฏิรูปกองทัพเรามีคณะทำงานที่ได้ศึกษาเรื่องนี้มาแล้ว โดยเราดูความเหมาะสมจากภัยคุกคามของประเทศว่าเราจะต้องมีจำนวนทหารเท่าไหร่
โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณการจัดซื้ออาวุธ เช่น เรือดำน้ำ ถามว่าเรามีภัยคุกคามทางทะเลหรือไม่ เราไม่เคยทำสงครามทางเรือกับประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเราใช้ทางการทูตสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน เราก็สามารถแก้ปัญหาโดยไม่ต้องใช้กำลัง
อีกเรื่องหนึ่งคือการเกณฑ์ทหาร พรรคเพื่อไทยมีนโยบายชัดเจนว่า เรามาดูเรื่องการสมัครใจเข้ารับราชการ เปิดโอกาสให้คนที่สมัครใจได้เรียนต่อถึงระดับ ปวช. หรือ ปวส. เป็นต้น