นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย ตอบรับคำเชิญเข้าร่วม Raisina Dialogue ครั้งที่ 9 ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยงานนี้เป็นการประชุมชั้นนำของประเทศอินเดีย เพื่อเป็นเวทีที่รวมผู้นำระดับโลก ผู้กำหนดนโยบาย และผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ มาหารือในประเด็นระหว่างประเทศที่มีความเร่งด่วนและสำคัญ โดยมี นายกรัฐมนตรีอินเดียและนายกรัฐมนตรีกรีซเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม นอกจากนี้ ในวันเดียวกันผู้แทนการค้าไทย ยังได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระการต่างประเทศนอร์เวย์ หารือการส่งเสริมความสัมพันธ์ในทุกมิติ

นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายว่า ตนได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วม Raisina Dialogue ครั้งที่ 9 ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ซึ่งจัดขึ้นด้วยกระทรวงการต่างประเทศอินเดียร่วมกับ Observer Research Foundation (ORF) เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นและแนวทางการรับมือและใช้โอกาสจากประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์ รวมถึงประเด็นระหว่างประเทศที่มีความเร่งด่วนและสำคัญ โดยในพิธีเปิดมีนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียเข้าร่วม และนายคีรีอาคอส มิตโซทาคิส นายกรัฐมนตรีกรีซกล่าวถ้อยแถลงเปิดการประชุมในฐานะแขกผู้มีเกียรติ และในงานดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,500 คน จาก 115 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น รัฐมนตรี อดีตประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ผู้บัญชาการทหาร ผู้บริหารอุตสาหกรรมชั้นนำ ผู้นำด้านเทคโนโลยี นักวิชาการ นักข่าว ผู้เชี่ยวชาญจาก Think Tanks รวมถึงเยาวชน

ผู้แทนการค้าไทย เสริมว่า ในวันเดียวกันนี้ ตนยังได้มีโอกาสหารือกับนายโทเบียส บิลล์สเตริม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นการส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-สวีเดน ตลอดจนการส่งเสริมและขับเคลื่อนความสัมพันธ์ในทุกมิติ ทั้งนี้ ไทยและสวีเดนมีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนานถึง 156 ปี รวมถึงยังได้หารือกับนาย Andreas Motzfeldt Kravik รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ ถึงแนวทางการสนับสนุนและขยายโอกาสการค้าการลงทุนระหว่างไทยและนอร์เวย์ 

นลินี กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเข้าร่วมการประชุม Raisina Dialogue ครั้งที่ 9 เป็นโอกาสดีในการส่งเสริมสถานะและบทบาทของประเทศไทยในเวทีด้านการประชุมระดับนานาชาติ ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายของรัฐบาลไทย และสะท้อนความสำคัญที่ไทยให้กับอินเดียในฐานะมิตรประเทศที่ใกช้ชิด และยังเป็นโอกาสในการหารือสองฝ่ายเพิ่มเติมกับผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งเป็นบุคคลระดับสูงจากในภาคส่วนต่าง ๆ ของกว่า 115 ประเทศ”