ไม่พบผลการค้นหา
'ชลน่าน' แง้มอาจมีข่าวดี ยันไม่ขอก้าวล่วงแนวทาง 'ก้าวไกล' เคาะลดเพดาน ม.112 ด้าน 'ประเสริฐ' ชี้รอก้าวไกลแถลงความชัดเจน เชื่อทิศทางเดินหน้าจะชัดขึ้น หลังเพื่อไทยฝากก้าวไกลหารือปม ม.112

วันที่ 21 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่สามว่า เดิมทีได้นัดหารือกับพรรคก้าวไกลไว้เวลา 10.00 น. แต่ทาง ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้แจ้งขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะพรรคก้าวไกลจะมีการแถลงข่าว ส่วนจะมีเนื้อหาสาระอย่างไรคงต้องติดตาม ส่วนตัวยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าเนื้อหาจะเป็นการส่งมอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ 

ส่วนกรอบเวลาฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่าน บอกยังมีเวลาถึงวันที่ 26 กรกฎาคม ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่สามวันที่ 27 กรกฎาคม ต้องใช้เวลาให้คุ้มที่สุด พร้อมยืนยันพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้งแปดพรรคการเมืองจับมือเหนียวแน่น และยังไม่ถึงคิดกรณีอื่น 

ถามถึงการให้สัมภาษณ์ของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่ระบุชัดพรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก หรือแก้ไขมาตรา 112 เหมือนเป็นการโยนให้พรรคก้าวไกลยอมถอยเรื่องนี้ หากต้องการร่วมตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่าน มองเป็นความเห็นของนายเศรษฐา แต่หากฟังจากทุกพรรคการเมือง รวมถึงสมาชิกวุฒิสภาที่ได้อภิปรายในรัฐสภา ก็มีเสียงสะท้อนมาแบบนั้นก็อาจเป็นประเด็นที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นไม่ได้ “แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะโยนภาระไปให้พรรคก้าวไกลเขาพิจารณา” ก่อนเชื่อมีทางออก คือพรรคก้าวไกลจะพิจารณาอย่างไร ตนไม่ขอก้าวล่วง “อาจจะมีข่าวดี 11 โมงนี้ก็ได้หนิครับ” 

ถามต่อว่าหากพรรคก้าวไกล ยอมถอยเพดานแก้ไขมาตรา 112 จะทำให้พรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียง สว. นายแพทย์ชลน่าน ชี้แจงใน 2 คำถามคือกรณีหากพรรคก้าวไกลยอมถอยจริง หลายพรรคการเมืองที่เคยออกมาพูดชัดว่าถ้าไม่มีเรื่องนี้ ก็พร้อมสนับสนุน ซึ่งจะเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง ส่วนจะต้องอาศัยเสียง สว. หรือไม่คงต้องไปดูถึงความจำเป็นภายหลัง 

“เป้าหมายเราหากได้นำจัดตั้งรัฐบาลคือต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เสียงในรัฐบาลต้องได้ 375 นี่คือสิ่งที่เพื่อไทยต้องทำ เงื่อนไขอะไรที่เป็นอุปสรรคต้องมาหารือกัน” นพ.ชลน่าน กล่าวทิ้งท้าย


รอก้าวไกลแถลงความชัดเจน

ด้าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ (20ก.ค.) ว่า เป็นการประเมินถึงสถานการณ์ทั้งเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมาและการโหวตนายกรัฐมนตรีใหม่อีกครั้งในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ยังไม่มีข้อสรุปว่าพรรคก้าวไกลจะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งมีการนัดหมายกันเช้าวันนี้ 10:00 น.แต่ทางก้าวไกลได้ขอยกเลิก โดยทางพรรคก้าวไกลขอแถลงท่าทีของพรรคหลังเมื่อวานนี้ได้มีการพูดคุยกับเพื่อไทย และ มีการพูดคุยกับ สส.ภายในพรรค ดังนั้นจึงขอให้รอฟังสาระสำคัญในการแถลงข่าวของพรรคก้าวไกลก่อน จากนั้นจะได้มาประเมินว่าจะทำงานร่วมกันต่ออย่างไร

AF743580-F66D-4742-A405-06E986097C8F-L0-001.jpg

ประเสริฐ กล่าวด้วยว่า การหารือระหว่าง 2 พรรค พรรคเพื่อไทยได้มีข้อกังวลในประเด็นการแก้ไข ม.112 ซึ่งทั้ง สส.และ สว.ก็ได้แสดงความเห็นผ่านทั้งการอภิปรายและการแสดงความเห็นส่วนตัว จึงฝากเรื่องนี้กับพรรคก้าวไกลไปหารือกันภายในพรรค 

เมื่อถามย้ำว่า สส.และ สว.ยังคงนำประเด็นเรื่องการแก้ไข ม.112 มาเป็นประเด็นหลักในการไม่โหวตนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ ระบุว่า ต้องรอความชัดเจนของพรรคก้าวไกลก่อน ทุกอย่างน่าจะประเมินสถานการณ์ได้ง่ายขึ้นว่าจะเดินไปในทิศทางใด 

เมื่อถามต่อว่าพรรคก้าวไกลบอกหรือไม่ว่าจะนำประเด็นนี้ไปทบทวนอย่างไร ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพียงแต่บอกว่าเขาจะนำไปหารือกันภายใน ส่วนเพื่อไทยก็ขอประเมินสถานการณ์หลังก้าวไกลแถลงจึงจะมีท่าทีที่ชัดเจนออกมาอีกครั้ง