ไม่พบผลการค้นหา
ธนาคารออมสิน แจ้งปิดบางสาขา แจงเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและพนักงานในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด หลังมีประชาชนจำนวนมากแห่ไปเปิดบัญชีเพื่อรอรับเงินเยียวยา 5พันบาทจากรัฐ ตั้งแต่ก่อนวันลงทะเบียนที่จะมีขึ้น 28 มี.ค. นี้

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2563 อนุมัติมาตรการเยียวยาด้วยการชดเชยรายได้แก่แรงงาน ลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนติดต่อกัน (เม.ย.-มิ.ย. 2563) โดยเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันเสาร์ที่ 28 มี.ค. 2563 ผ่านเว็บไซต์ "เราไม่ทิ้งกัน.com" เป็นต้นไป ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากเร่งรีบไปติดต่อสาขาธนาคารออมสินในหลายพื้นที่จนแออัดแน่นบริเวณพื้นที่สาขา เพื่อทำการเปิดบัญชีเงินฝาก หรือเชื่อมต่อพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝาก เพื่อสะดวกต่อการรับเงินชดเชย

เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากไปทำธุรกรรมดังกล่าวที่สาขาธนาคารออมสินหลายแห่งในหลายพื้นที่ ช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. 2563 จนเกิดความแออัดหนาแน่นภายในพื้นที่สาขา อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้ามชุมนุมและรวมตัวกันในสถานที่แออัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ธนาคารฯ จึงขอปิดการให้บริการสาขาในบางสาขาที่มีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ต่อทั้งประชาชนและพนักงานธนาคารออมสิน ตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 น.ของวันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ธนาคารฯ ขอแนะนำว่าไม่ต้องรีบเดินทางไปทำธุรกรรมดังกล่าว เพราะยังสามารถมาติดต่อได้เรื่อยๆ เพราะไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด โดยเมื่อลงทะเบียนเสร็จและมีการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้วจะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง คือ บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประจำตัวประชาชน หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารใดก็ได้ที่แจ้งไว้ ซึ่งผู้ลงทะเบียนไม่ต้องเดินทางมาที่ธนาคารออมสินเพื่อติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสามารถลงทะเบียนที่บ้านผ่านเว็บไซต์ "เราไม่ทิ้งกัน.com" ได้เลย เพื่อให้สอดคล้องกับคำแนะนำของรัฐบาล และแพทย์ ซึ่งไม่ต้องการให้ประชาชนมาอยู่ใกล้ชิดกัน แออัด หรือรวมกันเป็นกลุ่ม อาจเป็นช่องทางให้เกิดการติดเชื้อไวรัสกันได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :