7 พ.ย. 2567 ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ และโฆษก ป.ป.ช. แถลงข่าวถึงข้อเสนอแนะต่อ นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า โครงการนี้เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ โดยต้องดูว่า กรณีนี้ดำเนินนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้หรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการให้คำมั่นกับภาคประชาชน จะดำเนินโครงการด้วยวิธีใด จำนวนเงินเท่าไร ให้กับใครบ้าง
ไม่เช่นนั้นจะเป็นการให้คำมั่นไว้อีกอย่าง และปฏิบัติอีกอย่าง อยากให้ก่อนการหาเสียงทุกพรรคการเมืองวิเคราะห์พิจารณาศึกษาให้รอบคอบ ก่อนวางนโยบายหาเสียง เมื่อเข้าสู่การบริหารประเทศแล้วขับเคลื่อน อาจจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่ได้หาเสียงไว้ ก็เป็นเหมือนการโฆษณาไว้ แต่เมื่อซื้อจริง ทำจริง กลับไม่ตรงตามที่โฆษณา
ทั้งนี้ ป.ป.ช. จะส่งข้อเสนอแนะนี้ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาด้วย เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องประสานความร่วมมือกัน สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นหน้าที่ของอีกองค์กร ก็ต้องส่งไปให้อีกองค์กรพิจารณา เพียงแต่ไม่ได้มีสภาพบังคับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกต.ว่าจะพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจอย่างไรต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ กกต. เคยพิจารณาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปในช่วงเลือกตั้ง มีความเห็นว่า ไม่เข้าข่ายการสัญญาว่าจะให้ ถือเป็นดุลยพินิจของ กกต. เราไม่ก้าวล่วง วันนี้ ป.ป.ช.พิจารณาจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งยังไม่ได้มีการขับเคลื่อน จึงมีข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมเพียงเท่านี้ โดยยังไม่ได้ไปมองต่อว่าเมื่อขับเคลื่อนแล้วจะส่อทุจริตหรือไม่
ส่วนความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องรับฟังความเห็นจาก ป.ป.ช.โดยละเอียด นิวัติไชย กล่าวว่า เดาแนวพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไม่ออก เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของเขา ป.ป.ช.มีหน้าที่เสนอแนะ การดำเนินโครงการต่อไปเมื่อมีปัญหา ป.ป.ช.มีหน้าที่เฝ้าระวังกรณีอาจมีการทุจริต
”เราทำงานในเชิงป้อง ทำงานในเชิงรุกไม่ใช่ตั้งรับอย่างเดียว ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ดำเนินการตาม 8 ข้อเสนอแนะ หากรัฐบาลมีเหตุผล และการดำเนินโครงการไม่มีการทุจริต ไม่ได้เอื้อกับเอกชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สามารถชี้แจงต่อสื่อมวลชน และสาธารณชนได้“ นิวัติไชย กล่าว
ส่วนความจำเป็นของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในมุมมองของ ป.ป.ช.นั้น รัฐบาลกับ ป.ป.ช.มองต่างมุม ป.ป.ช.มองว่า ยังไม่เข้าขั้น แต่รัฐบาลมีมุมมองและเหตุผลสนับสนุนว่าวันนี้เศรษฐกิจไทยวิกฤต ซึ่งสามารถดำเนินการขับเคลื่อนได้ เพียงแต่ต้องทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นรอบด้าน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้สามารถตอบได้ว่าหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการจะเข้าข่ายการทุจริตเชิงนโยบาย หรือเอื้อนายทุนหรือไม่ เพราะต้องดูว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการอย่างไร
นอกจากนี้ตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ข้อที่ 8 ที่ระบุว่าควรแจกเงินให้กลุ่มยากจน เปราะบางเท่านั้น โดยใช้งบประมาณปกติ และจ่ายเป็นงวดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง จะคล้ายกับนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหรือไม่ นิวัติไชย ชี้แจงว่า กลุ่มคนที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือนั้นมีมุมมองต่างกัน รัฐบาลชุดนี้อาจคิดว่าต้องเพิ่มกลุ่มอื่น ๆ นอกจากกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ เรื่องนี้รัฐบาลมีหน้าที่ต้องตอบคำถามว่าทำไม ถ้าชี้แจงได้มีเหตุผล รัฐบาลก็จะสามารถขับเคลื่อนโครงการต่อไปได้
หากให้ดิจิทัลวอลเล็ตแค่กลุ่มเปราะบาง จะถือว่าขัดกับนโยบายหาเสียงและ กกต.จะมาเช็กบิลหรือไม่ นิวัติไชย กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีเหตุผล ข้อเท็จจริง และตอบสังคมได้ ตอนนี้ข้อกังวลส่วนตัวคือเกรงว่าจะต้องเป็นลูกหนี้ร่วม พร้อมย้ำว่า ปปช.ไม่มีอำนาจระงับ หรือยับยั้งโครงการ เว้นแต่กรณีมีความผิดเกิดขึ้น ปปช.อาจร้องต่อศาลให้ยกเลิกการอนุมัติ และอนุญาตต่อไป